ปลัด สธ. มอบ 6 นโยบายหลักเน้นหนักปี 2552 แก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชนให้สำเร็จ

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายและแนวทางการพัฒนาในปี 2552 เน้นหนัก 6 มาตรการหลักให้ผู้บริหารทั้งส่วนกลางและภูมิภาค แก้ไขปัญหาสาธารณสุข อาทิ การกวาดล้างวัณโรครักษาหายขาดทุกราย เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการแพร่เชื้อ การรณรงค์กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน การตั้งศูนย์ส่งต่อผู้ป่วยระดับเขต โครงการอาหารปลอดภัย การป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การรับมือโรคอุบัติใหม่และภัยพิบัติต่างๆ วันนี้ (27 ตุลาคม 2551) ที่สโมสรทหารบก(วิภาวดี) ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขนิเทศก์ อธิบดีทุกกรม ผู้อำนวยการกลุ่ม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ รวมกว่า 2,000 คน เพื่อมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขที่เน้นหนักปีงบประมาณ 2552 นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน ปี 2552 – 2554 ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 7 ตุลาคม 2551 โดยนโยบายสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการในปี 2552 เน้นหนัก 6 มาตรการหลัก ได้แก่ 1. การกวาดล้างวัณโรค ซึ่งไทยถูกจับตามองจากนานาชาติว่าเป็น 18 ใน 22 ประเทศที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของวัณโรครุนแรง เนื่องจากความสำเร็จในการรักษาของไทยได้ร้อยละ 70 ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือต้องมากกว่าร้อยละ 85 จะปรับปรุง 2 เรื่องใหญ่คือการบริการจัดการรักษาผู้ป่วยให้กินยาต่อเนื่อง 6 เดือน และการใช้ชุมชนมีส่วนร่วม ซึ่งประเด็นนี้องค์การอนามัยโลกสนใจที่จะทำศึกษาวิจัยการกวาดล้างวัณโรคในไทยด้วย ทั้งนี้จะให้ทุกจังหวัดตั้งผู้รับผิดชอบงานโดยเฉพาะทั้งระดับจังหวัด โรงพยาบาล ให้รักษาผู้ป่วยให้หายขาด 100 เปอร์เซ็นต์ และให้ออกค้นหาผู้ป่วยที่ยังไม่รู้ตัวว่าป่วยหรือเป็นกลุ่มเสี่ยงติดโรค ได้แก่ ผู้ต้องขังในเรือนจำ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ขาดสารอาหาร ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด ผู้ป่วยโรคถุงลมปอดโป่งพองเรื้อรัง ผู้ที่สูบบุหรี่ และกลุ่มแรงงานต่างด้าว หากรักษาได้ครบทุกราย จะเป็นวิธีที่ดีป้องกันไม่ให้วัณโรคแพร่ระบาดได้ดีที่สุด ให้ทุกพื้นที่รายงานความก้าวหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกสัปดาห์ และให้ผู้ตรวจราชการรายงานผลระดับเขตในที่ประชุมผู้บริหารทุกเดือน 2.โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว เป็นโครงการพระราชดำริฯที่พัฒนาอนามัยแม่และเด็ก โดยเน้นหนักการรณรงค์กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน 3.โครงการจัดตั้งศูนย์ประสานงานระบบการส่งต่อผู้ป่วยระดับเขต เชื่อมโยงข้อมูลกับทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ ให้ผู้ป่วยได้รับบริการอย่างต่อเนื่องและดีที่สุด ไม่มีปัญหาเตียงเต็มหรือเตียงไม่ว่าง 4.โครงการอาหารปลอดภัย จะบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งที่มีสาเหตุจากบริโภคอาหารไม่ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มการรณรงค์ให้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าด้วย 5.ยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีไทย รณรงค์ให้คนไทยตื่นตัวในการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่มีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมเสี่ยงเช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่กินผัก- ผลไม้ ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึงร้อยละ 60 และเป็นโรคเรื้อรังต้องสูญเสียงบประมาณในการรักษาจำนวนมาก และ6. การรับมือกับโรคอุบัติใหม่และภัยพิบัติต่างๆ (Public Health Emergency Response) ในปีนี้จะมีการจัดระบบเชื่อมโยงเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้านการรักษา การช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ระบบเตือนภัย เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้ผ่านวิกฤตมาแล้วหลายครั้ง เช่น โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก ภัยพิบัติสึนามิ และดำเนินการได้ดี ************** 27 ตุลาคม 2551