กระทรวงสาธารณสุข จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังโรคติดต่อ ประจำการ 24 ชั่วโมงที่สนามบินอู่ตะเภา โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรคไข้เหลือง 43 ประเทศ ผลการเฝ้าระวังที่ผ่านมา ได้ตรวจคัดกรองผู้โดยสารไปแล้ว 113 คน และให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลืองไปแล้ว 5 ราย ยังไม่พบโรคติดต่อร้ายแรงใดๆ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการที่กรมการขนส่งทางอากาศอนุญาตให้บริษัทสายการบินทุกแห่ง ทำการบินขึ้นลงรับส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 เนื่องจากเหตุความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศ ขณะนี้มีสายการบินต่างๆ ใช้บริการที่สนามบินอู่ตะเภามากขึ้นประมาณ 50-60 เที่ยวต่อวัน โดยมีเที่ยวบินของสายการบินเอธิโอเปียและเคนยา ซึ่งบินตรงมาจากเขตติดไข้เหลือง มาลงที่สนามบินอู่ตะเภาวันละ 2 เที่ยว กระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังโรคติดต่อที่อาจมาจากผู้เดินทาง จำนวน 12 คน ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่มากับเที่ยวบินทุกเที่ยว โดยเน้นหนักเที่ยวบินที่บินมาจากเขตติดไข้เหลือง 43 ประเทศ ผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ได้ตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเขตดังกล่าวแล้ว 113 ราย และให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง จำนวน 5 ราย ยังไม่พบโรคร้ายแรงใดๆ จากการเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ พบว่าการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างคล่องตัว ตามระบบการเฝ้าระวังโรคติดต่อระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสุขาภิบาลทั่วไป โดยตรวจหาสารคลอรีนตกค้าง ในน้ำใช้ภายในอาคารผู้โดยสารและหัวจ่ายน้ำประปา เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร พบว่าได้ตามเกณฑ์มาตรฐานและมีความปลอดภัย ********************************* 2 ธันวาคม 2551 สธ. เผยมีผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ดอนเมืองเช้านี้ 23 ราย นอนรักษา 7 ราย สาหัส 1 ราย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยมีผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ดอนเมืองเช้านี้ จำนวน 23 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 ราย ขณะนี้นอนรักษาตัว 7 ราย ในโรงพยาบาล 3 แห่ง อาการหนัก 1 รายอยู่ที่ไอซียูโรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล หลังผ่าตัดสมอง ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จากเหตุระเบิดภายในท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เมื่อเวลา 00.15 น. วันนี้ (2 ธันวาคม 2551) มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้แก่ นายรณชัย ไชยศรี อายุ 29 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่หลังทะลุช่องท้อง เสียเลือดจำนวนมาก และมีผู้บาดเจ็บอีก 22 ราย หน่วยแพทย์กู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลภูมิพล อดุลยเดช 8 ราย โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 13 ราย และโรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล 2 ราย ความคืบหน้าในการดูแลผู้บาดเจ็บ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมด ทีมแพทย์ได้ทำแผลและอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 15 ราย รับไว้นอนรักษาในโรงพยาบาล 7 ราย โดยอยู่ที่ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช 4 ราย เป็นชาย 3 ราย และอยู่ในห้องสังเกตอาการ 1 รายเป็นหญิง ที่รพ.มงกุฎวัฒนะ 2 รายเป็นชายทั้งหมด และที่รพ.เซ็นทรัล เย็นเนอรัล 1 ราย เป็นหญิง อาการล่าสุด ผู้บาดเจ็บที่รักษาในรพ.ภูมิพลอดุลยเดชทั้ง 4 รายรู้สึกตัวดี มี 1 รายแพทย์วางแผนผ่าตัดวันนี้ คือนายศุภชัย วงษ์จำลอง อายุ 44 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหน้าอก แขนขา เท้า และที่นิ้วเท้า บาดแผลค่อนข้างสกปรก อาการไม่สาหัส ที่รพ.มงกุฎวัฒนะทั้ง 2 ราย อาการทั่วไปดี ถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกายเล็กน้อย แพทย์ทำแผล เอาสะเก็ดระเบิดออก หากไม่มีอาการแทรกซ้อน จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนที่รพ.เซ็นทรัล เยนเนอรัล 1 ราย คือนางสาวพรรณฉวี สุพัฒพงษ์ อายุ 66 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ สะเก็ดฝังใน มีเลือดออกในสมอง แพทย์ผ่าตัดแล้ว หลังผ่าตัดนอนอยู่ไอซียู ยังมีอาการซึม ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ศูนย์นเรนทร ร่วมกับศูนย์เอราวัณของ กทม. จัดทีมแพทย์ฉุกเฉินประจำการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การดูแลผู้บาดเจ็บฉุกเฉินอย่างเต็มที่ ธันวาคม/6 ******************************* 2 ธันวาคม 2551


   
   


View 13    02/12/2551   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ