รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยช่วง 5 วันเทศกาลปีใหม่ 2552 จังหวัดราชบุรีและนครปฐม มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรลดลงจากปีที่ผ่านมา 2-3 เท่า พบเหตุเกิดมากในถนนสายรองและทางหลวงชนบท เนื่องจากไม่มีแสงสว่างเพียงพอ ส่วนผู้ขับขี่ยานพาหนะพบดื่มสุราร้อยละ 7 แนะตั้งไฟกระพริบเตือนเพิ่มในจุดเสี่ยงต่างๆ และกักตัวผู้ที่เมาสุราไว้จนกว่าอาการจะดีขึ้น วันนี้ (4 มกราคม 2552) นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดตรวจวัดความสุขหน้ามูลนิธิรวมใจการกุศล อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จุดตรวจวัดความสุขทุ่งพระเมรุ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครปฐม เพื่อติดตามการปฏิบัติงานในวันสุดท้ายของวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2552 นายมานิต กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมจุดควบคุมป้องกันอุบัติเหตุจราจรของจังหวัดราชบุรีและนครปฐม พบว่ามีการประสานความร่วมมือกันอย่างดี ระหว่างตำรวจภูธร เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เจ้าหน้าที่กู้ชีพจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ และมูลนิธิ/องค์กรเอกชนการกุศล โดยจะมีการสรุปวิเคราะห์สถานการณ์เป็นรายวัน เพื่อปรับแผนการปฏิบัติงานตั้งจุดตรวจต่างๆ ทำให้ในรอบ 5 วันของเทศกาลปีใหม่ 2552 ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2551 - 3 มกราคม 2552 ทั้งจังหวัดราชบุรีและนครปฐม มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรลดลง 2 - 3 เท่า โดยจังหวัดราชบุรีมีผู้เสียชีวิต 6 ราย ลดลงจากปีใหม่ 2551 ที่มี 11 ราย จังหวัดนครปฐมเสียชีวิต 5 ราย ลดลงจากปีใหม่ 2551 ที่มี 17 ราย นายมานิต กล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าส่วนใหญ่มักจะเกิดช่วงกลางคืน ในถนนสายรองและทางหลวงชนบท ซึ่งไม่มีระบบแสงสว่างเพียงพอ โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ สาเหตุจากขับเร็วเกิน มีการตัดหน้ากระชั้นชิด และมีการดื่มสุราร่วมด้วย ซึ่งที่จังหวัดนครปฐมจากการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ พบผู้ที่ดื่มสุราร้อยละ 7 ได้ขอความร่วมมือให้มีการตั้งไฟกระพริบเตือนในจุดเสี่ยง เช่น ทางแยก ทางโค้ง จุดกลับรถ โดยเฉพาะช่วงพลบค่ำในถนนหมู่บ้านและทางหลวงชนบท ส่วนถนนสายหลักซึ่งวันนี้ประชาชนจะเดินทางกลับกันมาก ทำให้การจราจรคับคั่ง ได้ขอให้รถกู้ชีพที่วิ่งไปมาบนถนน เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินขณะวิ่ง เพื่อกระตุ้นเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระวังอุบัติเหตุ และหากตรวจพบผู้ขับขี่ที่มีอาการเมาสุรา ขอให้มีการกักตัวไว้ดูแลจนกว่าอาการจะดีขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ******************************* 4 มกราคม 2552


   
   


View 6    04/01/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ