รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย เร่งขยายบริการแผนไทยในสถานพยาบาลทุกระดับ ผลักดันการผลิตยาสมุนไพรในโรงพยาบาลให้ได้มาตรฐาน จีเอ็มพี นำร่องปี 2552 นี้ 7 แห่ง และนำกลยุทธ์ทางการตลาดมาใช้ส่งเสริมการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยให้เป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น วันนี้ (9 มีนาคม 2552) ที่อาคารพิพิธภัณฑ์ศูนย์ฝึกอบรมด้านการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายประศาสตร์ ทองปากน้ำ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานพร้อมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายมานิต กล่าวว่า ศาสตร์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย เป็นภูมิปัญญาไทยที่ทรงคุณค่า ซึ่งหากมีการพัฒนาให้มีมาตรฐานเป็นสากล จะช่วยให้เป็นที่ยอมรับและนิยมมากขึ้น เพิ่มการพึ่งพาตนเองของประเทศได้เป็นอย่างดี ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ เร่งส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้มากขึ้น โดยขยายการบริการ เช่น นวดแผนไทย ประคบสมุนไพร ในโรงพยาบาลทุกระดับจนถึงสถานีอนามัย จัดบริการแพทย์ทางเลือกอื่นๆ เช่น การฝังเข็ม เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการรักษาแก่ประชาชน พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลบริการดีเด่นของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง มาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบและมาใช้บริการให้มากที่สุด นายมานิต กล่าวต่อว่า ในส่วนของยาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ต้องส่งเสริมให้มีการใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันให้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ในเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพในการรักษาโรค โดยให้โรงพยาบาลในสังกัดที่มีการผลิตยาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 80 แห่ง เร่งพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานจีเอ็มพี เช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบัน นำร่องในปี 2552 นี้ 7 แห่ง ได้แก่ รพ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก รพ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รพ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว รพ.พล จ.ขอนแก่น รพ.กุดชุม จ.ยโสธร และรพ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ จะเร่งศึกษาวิจัยยาสมุนไพรอีก 10 รายการ เพื่อบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพิ่มจากที่เดิมที่มี 19 รายการ ได้แก่ 1.เพชรสังฆาตแก้ริดสีดวงทวาร 2.สหัสธารา แก้ปวดเมื่อย 3.บัวบกเม็ด รักษาแผล ช่วยความจำในผู้สูงอายุ 4.เถาวัลย์เปรียงแก้ปวดเมื่อย 5.มะระขี้นก ลดน้ำตาลในเลือด 6.รางจืด ขับพิษในร่างกาย 7.หญ้าหนวดแมว ขับปัสสาวะ ขับนิ่วในไตขนาดเล็ก 8.ยาธาตุอบเชย แก้อาหารไม่ย่อย 9. ยาตำรับริดสีดวงทวาร และ 10.ยาบำรุงโลหิต นอกจากนี้ ต้องนำแนวคิดด้านการตลาดมาประยุกต์ใช้ เช่น การสร้างสัญลักษณ์รับรองคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ พัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามน่าใช้ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย ให้ประชาชนซื้อหาได้สะดวกมากขึ้น เพื่อให้การแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ******************************* 9 มีนาคม 2552


   
   


View 12    09/03/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ