รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารร่วมประชุมแนวร่วมหยุดยั้งวัณโรค องค์การอนามัยโลก ที่เมืองลีโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล 23-25 มีนาคม 2552 นี้ พร้อมแสดงความมุ่งมั่นและแนวทางจัดการปัญหาแพร่ระบาดของวัณโรคของประเทศไทย ท่ามกลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อลบชื่อออกจากกลุ่มประเทศที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงของวัณโรค
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม 2552 จะนำปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ไปร่วมการประชุมของหน่วยงานแนวร่วมหยุดยั้งวัณโรค (Stop TB Partnership) องค์การอนามัยโลก ที่เมืองลีโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นเวทีระดับโลกที่จัดให้ประเทศสมาชิก โดยเฉพาะประเทศที่มีปัญหาการแพร่ระบาดรุนแรงของวัณโรค ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวทางการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดการแพร่ระบาดของวัณโรค ที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญในหลายประเทศ และมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นปัญหาใหม่ในประเทศที่โรคสงบแล้ว เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ โดยมีประเทศสมาชิกเข้าร่วมการประชุมกว่า 100 ประเทศ
นายวิทยา กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ ประเทศไทยได้รับเชิญให้ร่วมการประชุมสำคัญ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการอภิปรายกลุ่มในหัวข้อ ท่ามกลางภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ : ผู้นำกับการทำให้การต่อสู้ขจัดวัณโรคเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เน้นแนวทางการดำเนินงานในประเด็น การติดเชื้อเอชไอวีและการป่วยเป็นวัณโรค การจัดการปัญหาวัณโรคดื้อยาหลายขนาน และวัณโรคดื้อยารุนแรง ส่วนที่ 2 เป็นการประชุมทวิภาคีร่วมกับสมาชิกบางประเทศ คณะกรรมการบริหารของหน่วยงานแนวร่วมหยุดยั้งเอดส์ หน่วยงานทางเทคนิค กองทุนโลก เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งพิจารณาการสนับสนุนให้กับประเทศสมาชิก
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ได้เตรียมประเด็นที่จะแสดงให้ที่ประชุมรับทราบถึงความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของกระทรวงสาธารณสุขไทย ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของวัณโรค อาทิ ตั้งมิสเตอร์ทีบีทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคถึงระดับตำบล เพื่อเป็นแกนหลักประสานความร่วมมือการดำเนินงาน ให้อสม.กว่า 9 แสนคนทั่วประเทศเป็นพี่เลี้ยงกำกับการกินยาของผู้ป่วยวัณโรคทุกวันจนครบสูตร รับผู้ป่วยเสมหะพบเชื้อไว้รักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อตัดโอกาสแพร่เชื้อสู่ชุมชนและให้ความรู้การกินยาต่อเนื่องจนกว่าจะหายขาด คัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีในผู้ป่วยวัณโรค เพื่อให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสร่วมด้วย รวมทั้งตั้งศูนย์สาธิตการรักษาวัณโรคดื้อยา ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก 2 แห่ง ที่ สถาบันบำราศนราดูร และสำนักวัณโรค โดยมีแผนจะขยายเป็น 27 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2555 เพื่อเป็นที่ฝึกอบรมการรักษาวัณโรคดื้อยาหลายขนานและวัณโรคดื้อยารุนแรง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้อัตรารักษาหายขาดไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอผลงานที่เป็นรูปธรรมในจังหวัดต่างๆ ด้วย
ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ วัณโรคของไทย ขณะนี้อยู่ลำดับที่ 18 จากทั้งหมด 22 ประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละประมาณ 90,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วยประมาณ ร้อยละ 20 และจากการสำรวจพบวัณโรคดื้อยาหลายขนาน ร้อยละ 1.65 ส่วนวัณโรคดื้อยารุนแรงมีประมาณ ร้อยละ 5 ของการดื้อยาหลายขนาน อัตราการรักษาหายขาดยังไม่ถึงร้อยละ 70 ซึ่งจากมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ มั่นใจว่าไทยจะสามารถลบรายชื่อออกจากกลุ่มประเทศที่มีการแพร่ระบาดวัณโรครุนแรงได้อย่างแน่นอน
*************************** 22 มีนาคม 2552
View 12
22/03/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ