สาธารณสุข เผยผลการศึกษาวิจัยผู้เชี่ยวชาญ คาดประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ปีละ 7-9 แสนราย ต้องนอนโรงพยาบาลเนื่องจากเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงปีละ 12,000-75,000 ราย ระบุผู้สูงอายุเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนง่ายกว่าคนทั่วไป 11 เท่าตัว เตรียมพร้อมวัคซีนป้องกันปีนี้ 1.8 ล้านโด๊ส ฉีดสร้างภูมิต้านทานให้ผู้ที่มี 7โรคประจำตัวเรื้อรัง เริ่มฉีด 1 ก.ค. 52 ชี้วัคซีนสามารถลดการเกิดโรคในผู้ที่เป็นโรคประจำตัวได้ถึง 4 เท่าตัว นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัด ไข้หวัดนกและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อบ่ายวันนี้ (4 เมษายน 2552) ว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน พบได้บ่อยทุกกลุ่มอายุ จากผลการศึกษาวิจัยของผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย คาดมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั่วประเทศปีละ 700,000-900,000 ราย โดยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปีละ 12,575-75,801 ราย หรือประมาณร้อยละ 8 ก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละ 913-2,453 ล้านบาท นายมานิต กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีผลการศึกษาถึงโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคปอดอักเสบจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ พบว่าผู้สูงอายุมีโอกาสเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มอื่นถึง 11 เท่าตัว กลุ่มโรคทางเดินหายใจมีโอกาสเสี่ยงเกือบ 8 เท่า การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาศัยในชุมชน สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ถึงร้อยละ 50 และในกลุ่มผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังสามารถลดได้ถึง 4 เท่า ในปี 2552 กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่จำนวน 1,790,000 โด๊ส ฉีดป้องกันในกลุ่มประชาชนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน เนื่องจากคนกลุ่มนี้ ร่างกายอ่อนแอ มีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยสูง และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจนอาจเสียชีวิตได้ โดยจะเริ่มฉีดในวันที่ 1กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2552 นอกจากนี้ ยังได้ฉีดให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ดูแลผู้ป่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อไข้หวัดใหญ่ รวมถึงเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์ปีกจำนวน 4 แสนโด๊สด้วย พร้อมกันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งวิธีการป้องกันทุกวิถีทาง ทั้งรณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังกายเพิ่มภูมิต้านทานโรค และสร้างค่านิยมให้ผู้ที่เป็นไข้หวัดทุกคนคาดหน้ากากอนามัยให้เป็นนิสัย เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ขณะไอจาม ซึ่งจะลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ ทางด้านนายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบในไทยขณะนี้ ยังไม่มีปัญหากลายพันธุ์ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นวิธีป้องกันการป่วยและเสียชีวิตของประชาชนอย่างได้ผล วัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันโรคได้ร้อยละ 70-90 โดยป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ 3 สายพันธุ์ ตามคำแนะนำองค์การอนามัยโลก ในปี 2551 กระทรวงสาธารณสุขได้ฉีดวัคซีนป้องกัน 520,000 คน พบว่าได้ผลดีมาก มีผู้เสียชีวิตเพียง 4 รายเท่านั้น ****************************4 เมษายน 2552


   
   


View 9    04/04/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ