สธ. เตรียมกำลังหมอพยาบาล 112 ทีม รองรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 14 เต็มที่

กระทรวงสาธารณสุข ระดมทีมแพทย์ พยาบาล 112 ทีม กว่า 500 คน ดูแลสุขภาพผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 14 จำนวนกว่า 2,500 คน ตลอด 24 ชั่วโมง คุมเข้มทั้งด้านการรักษาพยาบาล-ความปลอดภัยอาหาร น้ำดื่ม ระบบปรับอากาศ และฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลงนำโรคในโรงแรมที่พักและที่จัดประชุม มีเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำประจำการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินทางอากาศทันที เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพร้อมแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ วันนี้ (7 เมษายน 2552) ที่โรงพยาบาลชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เภสัชกรมานิตย์ อรุณากูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมเตรียมพร้อมความปลอดภัยทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 14 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 เมษายน 2552 ที่จังหวัดชลบุรี นายวิทยา กล่าวว่า ในการเตรียมพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขรองรับการประชุมครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เป็นศูนย์สั่งการ หรือวอร์รูม (War Room) โดยตั้งศูนย์อำนวยการอยู่ที่ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ เมื่อมีการเจ็บป่วยฉุกเฉินเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเฝ้าระวังโรคติดต่อ ดูแลด้านสุขาภิบาล ทั้งอาหาร ที่พัก สิ่งแวดล้อม เพื่อให้การดูแลสุขภาพอนามัยแก่ผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอาเซียน ประเทศคู่เจรจา ตลอดจนคณะเลขาธิการ คู่สมรสและผู้ติดตาม จากประเทศต่างๆ 16 ประเทศ จำนวนกว่า 2,500 คน อย่างดีที่สุด ในด้านการรักษาพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขได้ระดมแพทย์และพยาบาลเชี่ยวชาญสาขาต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด จากโรงพยาบาลทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน 20 แห่ง ได้แก่ รพ.ศิริราช รพ.เลิดสิน รพ.สมเด็จศรีราชา รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี รพ.ตราด รพ.ระยอง รพ.สัตหีบ กม.10 รพ.บางละมุง รพ.พานทอง รพ.มาบตาพุด รพ.พนัสนิคม รพ.บ้านบึง รพ.อ่าวอุดม รพ.บ่อทอง รพ.หนองใหญ่ รพ.สมิติเวช-พัทยา รพ.สมิติเวช-ศรีราชา รพ.พญาไท-ศรีราชา รพ.กรุงเทพ-พัทยา และรพ.กรุงเทพ-ระยอง มากกว่า 500 คน แบ่งเป็น 112 ทีม ซึ่งจะแบ่งการทำงานเป็นผลัด ทั้งนี้ ทีมแพทย์ พยาบาลพร้อมรถพยาบาล จะปฏิบัติงาน ดังนี้ 1.ประจำสนามบินสุวรรณภูมิและอู่ตะเภา 2.รับ-ส่งผู้นำประเทศ ผู้เข้าร่วมประชุมจากสนามบินไปยังที่พัก 3.ประจำโรงแรมทุกแห่งที่ผู้นำประเทศและผู้เข้าร่วมประชุมเข้าพัก รวมทั้งสถานที่ประชุม 4.รับ-ส่งผู้นำประเทศ ผู้เข้าร่วมประชุมจากที่พักไปยังที่ประชุม ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เน้นความพร้อม 3 ด้าน ได้แก่ บุคลากร เครื่องมือแพทย์ และรถพยาบาลพร้อมเครื่องมือสื่อสารประสิทธิภาพสูง โดยได้ให้โรงพยาบาลชลบุรีและโรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา เป็นศูนย์กลางรองรับผู้เจ็บป่วย ดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ และโรงพยาบาลศิริราชเป็นศูนย์รับส่งต่อ เตรียมพร้อมห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ทีมแพทย์-พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด โรคหัวใจ กระดูก สมอง และห้องไอซียู โดยได้เตรียมพร้อมเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำที่สถานที่จัดประชุม จำนวน 3 ลำ เพื่อส่งผู้ป่วยรักษาต่อที่กรุงเทพ ทั้งหมดได้มีการซักซ้อมแผนความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทุกระดับแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศฺวิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการดูแลด้านสุขาภิบาลอาหาร อนามัยสิ่งแวดล้อม และการควบคุมป้องกันโรคในที่พัก จุดประชุมต่างๆ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการมาก่อนหน้านี้ 1 เดือน โดยได้ตรวจสอบมาตรฐานความสะอาดในโรงแรม ห้องพัก ระบบปรับอากาศ และสิ่งแวดล้อมรอบๆ โรงแรม สถานที่ประกอบอาหาร ตรวจสอบความปลอดภัยอาหารและน้ำ รวมทั้งผู้ประกอบและสัมผัสอาหาร ตามมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร โดยมีรถตรวจคุณภาพอาหารจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำการสุ่มตรวจทั้งก่อนและหลังปรุงทุกวัน ส่วนการป้องกันและควบคุมโรค ได้จัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสำรวจและพ่นสารเคมีกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุง แมลงวัน แมลงสาบ รวมทั้งสุนัขจรจัด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมประชุม คณะผู้ติดตาม ประชาชนทั่วไป ตลอดจนสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาร่วมการประชุมฯ ในครั้งนี้ ************************************* 7 เมษายน 2552