สาธารณสุข จัดทำโครงการฟันเทียมพระราชทานให้ผู้สูงอายุที่สูญฟันทั้งปากตั้งแต่ปี 2552-2554 จำนวน 90,000 ราย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554 ชี้ขณะนี้ผู้สูงอายุไทย ราว 700,000 คน ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร คาดในอีก 16 ปี ปัญหาจะเพิ่ม 2 เท่า เช้าวันนี้ (10 เมษายน 2552) ที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ จ.ราชบุรี นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย และแพทย์หญิงวิลาวัณย์ จึงประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 4 ร่วมพิธีมอบสิทธิ์ทำฟันเทียมพระราชทานในปี 2552 พร้อมรับมอบเงินสนับสนุนโครงการฟันเทียมพระราชทาน 546,000บาท จากรองประธานกรรมการบริหารบริษัทโอสถสภาจำกัด และเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ “ยิ้มสร้างสุข” ในโครงการฟันเทียมพระราชทานจังหวัดราชบุรี นายมานิต กล่าวว่า ขณะนี้สัดส่วนผู้สูงอายุของไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้สูงอายุนอกจากจะมีปัญหาสุขภาพจากความเสื่อมของร่างกายแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องสูญเสียฟันจนเคี้ยวอาหารไม่ได้ ทำให้ได้รับสารอาหารเพื่อสุขภาพไม่ครบถ้วน ผลสำรวจล่าสุดในปี 2550 มีผู้สูงอายุไม่เหลือฟันเคี้ยวอาหารเลยประมาณร้อยละ 10 หรือประมาณ 700,000 ราย และมีความต้องการใส่ฟันเทียมประมาณ 250,000 ราย พบในภาคกลางมากที่สุด และจากแนวโน้มผู้สูงอายุไทยที่จะเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากร้อยละ 10 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 20 ในปี 2568 คาดว่าปัญหาผู้สูงอายุไร้ฟันเคี้ยวอาหารจะมากขึ้นตามไปด้วย กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนรับมือและบรรเทาปัญหาให้น้อยลง โดยขยายโครงการฟันเทียมพระราชทาน ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548-2551 ออกไปอีก 3 ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. 2552-2554 ตั้งเป้าใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีฟัน ปีละ 30,000 ราย รวม 90,000 ราย เพื่อเตรียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในพ.ศ. 2554 โดยโครงการดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้ร่วมสนับสนุนเงินทุน และให้โรงพยาบาล/คลินิกเอกชน ร่วมจัดบริการ ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการมากขึ้น และได้รับการใส่ฟันเทียมเร็วขึ้น ขณะเดียวกัน มีนโยบายให้กรมอนามัยพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก เพื่อลดการสูญเสียฟันในระยะยาวด้วย นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผลการดำเนินการในช่วงปี 2548-2551 ได้ใส่ฟันเทียมทั้งปากให้แก่ผู้สูงอายุทั่วประเทศไปแล้ว 128,257 ราย โดยร้อยละ 66 เป็นผู้สูงอายุที่ได้ใส่ฟันเทียมเป็นครั้งแรก จากการประเมินผลพบว่า ผู้สูงอายุร้อยละ 86 เคี้ยวอาหารดีขึ้น ร้อยละ 64 พูดชัดขึ้น และมีความมั่นใจในการเข้าสังคมมากขึ้น สำหรับในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้รับความร่วมมือจากบริษัทโอสถสภา จำกัด สนับสนุนงบประมาณใส่ฟันเทียมให้ผู้สูงอายุจำนวน 500 ราย รายละ 4,100 บาท รวม 2,050,000 บาท นอกจากนี้ ยังพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพช่องปากโดยภาคประชาชน อาทิ ชมรมผู้สูงอายุ อสม. เป็นต้น พร้อมกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ด้านนายแพทย์บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า จากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพของจังหวัดราชบุรีในปี 2551 พบผู้สูงอายุมีฟันเคี้ยวอาหารไม่เพียงพอร้อยละ 56 ในจำนวนนี้ได้รับการใสฟันเทียมทั้งปากแล้ว 1,551 ราย ในปีนี้ตั้งเป้าใส่ฟันเทียมทั้งปากให้ผู้สูงอายุจำนวน 492 ราย ในจำนวนนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทโอสถสภา จำกัด 100 ราย ซึ่งการจัดบริการมีทั้งภาครัฐและคลินิกเอกชน ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุได้รับบริการใส่ฟันเทียมทั่วถึงมากขึ้น *******************10 เมษายน 2552


   
   


View 7    10/04/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ