สาธารณสุข มอบหนังสือนิทานเล่มแรก 60,000 เล่ม เป็นของขวัญให้เด็กที่เกิดวันที่ 29 เมษายน–29 พฤษภาคม 2552 เทิดพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเจริญพระชันษาครบ 4 ปี ให้พ่อแม่อ่านสร้างเสริมพัฒนาการด้านภาษาให้ลูก และประกวดหนูน้อยนมแม่ที่มีพัฒนาการเร็ว ระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2552 ทั่วประเทศ สมัครที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมจัดพิมพ์โปสเตอร์พระรูปแสดงพัฒนาการแต่ละวัยของพระองค์เจ้าทีปังกรฯ แจกสถานบริการสาธารณสุข ศูนย์เด็กเล็ก 30,000 แห่ง วันนี้ (23 เมษายน 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวการจัดกิจกรรม “พัฒนาการดี เริ่มที่นมแม่” เทิดพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกร รัศมีโชติ ในวโรกาสทรงเจริญพระชันษาครบ 4 ปี ในวันที่ 29 เมษายน 2552 โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เทิดทูนพระองค์ทรงเป็นต้นแบบของเด็กไทยที่มีพัฒนาการดี พลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ด้วยรับการถวายพระกษีรธาราหรือนมแม่จากพระมารดา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมในพระองค์ นายวิทยา กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเจริญพระชันษาครบ 4 ปี วันที่ 29 เมษายน 2552 ที่จะถึงนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดกิจกรรมเพื่อเทิดเพระเกียรติ 2 เรื่องใหญ่ กิจกรรมแรกได้แก่ การมอบหนังสือนิทานเล่มแรกหรือบุ๊คสตาร์ท (Book Start) เป็นของขวัญให้เด็กไทยที่เกิดในวันที่ 29 เมษายน – 29 พฤษภาคม 2552 จำนวน 60,000 เล่ม เพื่อให้พ่อแม่อ่านให้ลูกฟัง เป็นสื่อสร้างเสริมพัฒนาการด้านภาษา ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็ก และสานสายใยรักระหว่างพ่อแม่ลูกในครอบครัว ทั้งนี้เพื่อเร่งรัดดำเนินการให้เด็กไทยมีพัฒนาการดีขึ้น และสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่จะพัฒนาเด็กไทยให้มีสติปัญญาดี เฉลียวฉลาด มีคุณธรรม จริยธรรม เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ กิจกรรมที่ 2 คือ การจัดประกวดเด็กอายุ 18 เดือนที่กินนมแม่ และมีพัฒนาการเร็วแต่ละด้าน 4 ด้านประกอบด้วย ด้านภาษา การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ และพัฒนาการด้านสังคมการช่วยเหลือตนเอง โดยจัดระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม ประชาชนที่สนใจสามารถสมัครได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ และที่กรมอนามัย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เด็กที่ชนะการประกวดพร้อมพ่อแม่ จะเข้ารับรางวัลในงาน รวมพลคนกินนมแม่ในเดือนสิงหาคม 2552 ทั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้พระราชทานพระรูปพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดพิมพ์โปสเตอร์ ทั้งหมด 4 รูป รูปที่ 1 เป็นรูปแรกเกิด รูปที่ 2 พระชันษา 4 เดือน ทรงชุดลำลอง พระอารมณ์ดี รูปที่ 3 พระชันษา 1 ปี ในพระอิริยาบถสนุกสนานกับการเล่น รูปที่ 4 พระชันษา 3 ปี แต่งชุดนักเรียน ทั้ง 4 รูปรวมอยู่ในแผ่นเดียวกัน ส่งมอบให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ โรงพยาบาล ศูนย์เด็กเล็ก รวมทั้งหมดประมาณ 30,000 แห่งทั่วประเทศ ให้ประชาชนได้ชื่นชมพัฒนาการของพระองค์ และเผยแพร่ให้พ่อแม่ที่มีลูกอายุน้อยกว่า 5 ขวบ ได้รู้พัฒนาการของเด็กแต่ละวัยด้วย นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาคุณภาพเด็กตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิ ระยะตั้งครรภ์ คลอด หลังคลอด จนกระทั่งเด็กเกิด โดยให้เด็กทุกคนกินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน เพราะนมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่าเหมาะสมที่สุดสำหรับเลี้ยงเด็กทารก และเป็นการกระตุ้นพัฒนาการให้เด็กดีที่สุด เพราะเด็กจะได้รับการกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้านของเด็กให้เกิดการรับรู้ ได้แก่ การมองเห็น การได้ยิน การลิ้มรส การได้กลิ่น และการสัมผัส ซึ่งจัดเป็นการลงทุนพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ที่ประหยัดและได้ผลคุ้มค่าที่สุดในโลก ประเทศไทยมีเด็กเกิดปีละ 800,000 คน แต่ละปีจึงมีเด็กปฐมวัยหรือเด็กแรกเกิดถึงอายุ 5 ปี จำนวน 4 ล้านกว่าคน ซึ่งพัฒนาการของเด็กจะมีมากที่สุดในช่วงตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 2 ปี สมองเจริญเติบโตรวดเร็วมากถึงร้อยละ 80 ของสมองผู้ใหญ่ หากสมองเจริญเติบโตช้า หรือหยุดชะงัก ซึ่งเกิดจากสาเหตุเช่น การเลี้ยงดูไม่เหมาะสม ได้อาหารไม่ครบถ้วน จะทำให้พัฒนาการของเด็กช้า ระดับเชาวน์ปัญญาต่ำ เรียนไม่ทันเพื่อน เรียนตกซ้ำชั้น ผลสำรวจพัฒนาการเด็กอายุ 1-5 ปี ของกรมอนามัยล่าสุดในปี 2550 พบเด็กมีพัฒนาการปกติเหมาะสมกับอายุเพียงร้อยละ 68 ชี้ให้เห็นว่าในเด็กทุกๆ 100 คน จะพบเด็กที่พัฒนาการล่าช้า 30 คน ส่วนพัฒนาการด้านภาษาคือการพูดนั้น พบว่าล่าช้ากว่าด้านอื่นๆ ซึ่งผลวิจัยทางการแพทย์ระบุชัดเจนว่า การพูดช้าจะเชื่อมโยงไปถึงระดับสติปัญญาของเด็กในอนาคตด้วย นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ในการเร่งรัดให้นโยบายรัฐบาลบรรลุผล ในปีนี้ได้ให้อสม. กว่า 9 แสนคน ดูแลสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ชนิดประกบ 1 ต่อ 1 ให้อสม.เป็นพ่อแม่คนที่ 2 ของเด็กไทยทุกคน โดยส่งเสริมให้หญิงหลังคลอดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้อย่างน้อย 6 เดือน และกินนมแม่ต่อไปพร้อมกับอาหารตามวัยที่มีประโยชน์จนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารครบถ้วน เพียงพอ ได้รับภูมิคุ้มกันโรคจากแม่ที่สารอาหารอื่นทดแทนไม่ได้ ซึ่งจะลดการนำเข้านมผงจากต่างประเทศได้ปีละ 12 ล้านบาท ส่วนการอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง จะเป็นการพัฒนาสมองเด็ก ควรเล่านิทานบ่อยๆ ทุกวัน วันละ 5-10 นาที หรือทุกครั้งที่อยู่กับลูก การเล่านิทาน อ่านหนังสือร่วมกันระหว่างพ่อแม่ลูก ทำให้เด็กสนุกสนาน มีความสุข สร้างความอบอุ่น ความผูกพัน สานสายใยรัก และส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษา ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมด้วย *********************************** 23 เมษายน 2552


   
   


View 8    23/04/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ