สาธารณสุขเผยผลพัฒนาส้วมไทยรอบ 3 ปี บรรลุผลสำเร็จร้อยละ 31 ส้วมในห้างสรรพสินค้าผ่านเกณฑ์มากที่สุด ร้อยละ 79 น้อยสุดคือ ส้วมในศาสนสถาน บรรลุเกณฑ์เพียงร้อยละ 7 ตั้งเป้าปี 2552 เร่งพัฒนามาตรฐานส้วมสาธารณะให้ได้ร้อยละ 60 คนใช้สุขใจ เพิ่มสร้างส้วมคนสูงอายุ คนพิการ ให้ได้มากกว่าร้อยละ 10 และสร้างพฤติกรรมคนไทยให้ใช้ส้วมถูกต้อง ให้ได้ร้อยละ 90 วันนี้ (30 เมษายน 2552) ที่โรงแรมมิราเคิล กรุงเทพมหานคร นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ส้วมไทย...หัวใจธรรมชาติ เพื่อลดภาวะโลกร้อน” โดยมีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ภาคีเครือข่ายส้วมสาธารณะ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักวิชาการกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขต ศูนย์อนามัยที่ 1-12 การรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนเครือข่ายผู้สูงอายุ ผู้พิการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เข้าร่วมประชุมจำนวน 600 คน พร้อมมอบรางวัลให้สถานที่ที่ชนะเลิศการประกวดสุดยอดส้วมแห่งปี 2551 จำนวน 13 ประเภท เช่น ส้วมประเภทแหล่งท่องเที่ยว ส้วมร้านจำหน่ายอาหาร ส้วมในตลาดสด เป็นต้น นายวิทยา กล่าวว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการพัฒนาส้วมสาธารณะไทยให้ได้มาตรฐานสะอาด เพียงพอ ปลอดภัย (HAS) ไม่เป็นแหล่งแพร่โรคติดต่อ และเป็นที่พึงพอใจของคนไทยและนักท่องเที่ยว ผลการดำเนินการตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน มีส้วมสาธารณะผ่านเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 31 ส้วมที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานมากที่สุด ได้แก่ ส้วมในห้างสรรพสินค้าร้อยละ 79 รองลงมาคือ ส้วมโรงพยาบาลร้อยละ 66 ส้วมแหล่งท่องเที่ยวร้อยละ 51 สถานีขนส่งร้อยละ 44 สวนสาธารณะและตลาดสดร้อยละ 40 สถานที่ราชการร้อยละ 39 ปั๊มน้ำมันร้อยละ 32 ส่วนร้านอาหารผ่านเกณฑ์ร้อยละ 26 โดยส้วมที่ผ่านเกณฑ์น้อยมากคือ ส้วมในศาสนสถาน มีเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ ได้มอบนโยบายให้ปรับปรุงส้วมโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด ให้ได้มาตรฐานสะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ส่วนในปี 2553 ให้ทุกสถานีอนามัยเร่งพัฒนาส้วมให้สะอาด ได้มาตรฐาน ภายใต้โครงการ “ส้วมดีทุกสถานีอนามัย” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบ นำกลับไปปรับปรุงส้วมที่บ้านของตนเอง การพัฒนาจะเน้นหนัก 2 เรื่อง คือการสร้างพฤติกรรมคนไทยให้ใช้ส้วมที่ถูกวิธีคือ นั่งบนโถส้วม ไม่ทิ้งวัสดุอื่นนอกจากกระดาษชำระลงในโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และล้างมือทุกครั้งหลังการใช้ส้วม จากการประเมินผลที่ผ่านมา พบคนไทยใช้ถูกต้องเพียงร้อยละ 47 ในปี 2552 นี้จะรณรงค์ให้ได้ร้อยละ 90 เรื่องที่ 2 คือการพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้ตามมาตรฐานให้ได้ร้อยละ 60 เพื่อให้คนใช้ถูกใจยิ่งขึ้น โดยมอบให้กรมอนามัยประสานสถานที่ต่างๆ สร้างส้วมสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุให้เพียงพอ ซึ่งขณะนี้มีเพียงร้อยละ 10 ด้านแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมา กรมอนามัยได้เร่งสร้างภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาส้วมสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 27 ภาคี การประชุมในวันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ วิธีการดำเนินการพัฒนาส้วมสาธารณะ การบูรณาการองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาส้วมไทยในมิติใหม่ที่เกิดความยั่งยืน และเป็นการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กร ตลอดจนให้ประชาชนมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง *******************30 เมษายน 2551


   
   


View 13    30/04/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ