รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข ยันไทยมีความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน วันที่ 7-8 พฤษภาคมนี้ คาดทุกประเทศตอบรับ เพื่อให้ได้แนวทางร่วมของอาเซียนในการต่อสู้กับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 บ่ายวันนี้ (4 พฤษภาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ที่โรงแรมดุสิตธานี 7-8 พฤษภาคม 2552 นี้ ว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเร่งด่วนเพื่อหามาตรการป้องกันโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 และแนวปฏิบัติแลกเปลี่ยนความพร้อมและประสบการณ์ในการป้องกัน การดูแลรักษา ตลอดจนการรณรงค์ป้องกันภาคประชาชนของโรคไข้หวัดใหญ่ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากได้ทิศทางแล้ว จะเป็นแนวทางร่วมกันของรูปแบบในอาเซียน และจะมีการลงนามในระดับรัฐมนตรีต่อไป จากนั้นจะนำเสนอต่อองค์การอนามัยโลก ในการประชุมที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2552 นี้ นายวิทยา กล่าวต่อว่า วันนี้ได้พบกับ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน เพื่อพูดคุยถึงความก้าวหน้าการเตรียมการ การกำหนดหัวข้อการประชุมระดับเจ้าหน้าที่และระดับรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบรับเข้าร่วมประชุมจากประเทศต่างๆ มั่นใจว่ารัฐมนตรีสาธารณสุขจะเข้าร่วมประชุมครบทั้ง 10 ประเทศ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีประสบการณ์ในการป้องกันโรคไข้หวัดนกมาก่อน มีมาตรฐานในการป้องกัน โดยในครั้งนี้ได้เตรียมความพร้อมใน 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน 2.การป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งการระบาดผ่านมา 10 วันแล้ว ก็ยังไม่พบว่ามีการระบาดในประเทศไทย 3.การรณรงค์ป้องกันในภาคประชาชน โดยให้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อม รวมทั้งการใช้ อสม. ออกรณรงค์เพื่อให้ประชาชนเกิดความพร้อมในการป้องกัน และ 4.การเตรียมความพร้อมในการรักษาพยาบาล นายวิทยา กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีการประชุมติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคโดยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทุกวัน และปรับปรุงมาตรการตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังให้กรมควบคุมโรคจัดอบรมทางวิชาการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกระดับ และจะขยายไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทุกจุดในสนามบิน เพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ดียิ่งขึ้น หากประชาชนมีข้อเสนอแนะที่ดีสามารถ ติดต่อมาได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงสาธารณสุข สำหรับเครื่องตรวจจับอุณหภูมิ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือเพื่อเพิ่มการติดตั้ง หากเกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มเพื่อนบ้าน จะต้องมีการตั้งเครื่องทั่วประเทศ เบื้องต้นได้ติดตั้งในจุดที่จำเป็นก่อน 32 ด่าน โดยได้มอบหมายให้ นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบข้อมูล ด่านที่มีคนเข้ามากอาจจะต้องติดเครื่อง ส่วนด่านที่มีคนเข้าน้อย อาจพิจารณาใช้ปรอทวัดไข้วัดรายบุคคล ***************************4 พฤษภาคม 255


   
   


View 11    04/05/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ