กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลองค์การอนามัยโลกชี้แนวโน้มไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ยังคงกระจายไปในประเทศต่างๆ ทุกภูมิภาคของโลก ความรุนแรงของโรคมีแนวโน้มไม่สูงเหมือนในช่วงแรกของการระบาด แต่ทุกประเทศยังไม่ควรประมาท ต้องเร่งเฝ้าระวังและป้องกันโรคอย่างเต็มที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนไม่ควรกังวลจนเกินไป แต่ต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง รู้จักวิธีป้องกันตนเอง ส่วนผู้ที่มีอาการป่วย รู้วิธีป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น และไปพบแพทย์เพื่อรักษา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเช้าวันนี้ (16 พฤษภาคม 2552) ว่า จากการติดตามการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่เริ่มมีการระบาด และศึกษาองค์ความรู้ทางวิชาการของเชื้อนี้อย่างต่อเนื่อง พบว่าโรคนี้มีลักษณะการแพร่ระบาด ใกล้เคียงกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ที่พบในประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งไทย และความรุนแรงของโรคมีแนวโน้มไม่สูงเหมือนช่วงแรกของการระบาด จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ในกลุ่มผู้ป่วยที่ยืนยันว่าติดเชื้อนี้ มีอัตราป่วยตายโดยเฉลี่ยน้อยกว่าร้อยละ 1 ส่วนอัตราป่วยตายในประเทศอื่นๆ ยกเว้นเม็กซิโก จะต่ำกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เชื้อนี้เป็นเชื้อใหม่ ประชาชนทุกประเทศในโลกไม่มีภูมิต้านทาน จึงมีโอกาสติดเชื้อได้ ดังนั้น การให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มีวิธีแพร่ระบาดเหมือนไข้หวัดใหญ่ทั่วไปที่ระบาดตามฤดูกาล หากประชาชนปฏิบัติตัวเหมือนกับการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไปอย่างเคร่งครัด ก็จะสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ได้เช่นเดียวกัน โดยการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง รักษาร่างกายให้อบอุ่น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลทำความสะอาดมือ เมื่อมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก ควรป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น ด้วยการคาดหน้ากากอนามัย หรือใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอหรือจาม และไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการปรับมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องเหมาะสม โดยเฉพาะประเด็นของยาต้านไวรัส จะพยายามเพิ่มจำนวนยาต้านไวรัสในคลังสำรองยา นอกจากนี้ คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงฯ กำลังปรับแนวทางการใช้ยาต้านไวรัสของประเทศให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ไม่ให้มีการใช้ยาเกินความจำเป็น เพื่อป้องกันการแพ้ยา และที่สำคัญคือป้องกันปัญหาการดื้อยา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโลกตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2552 ถึงเช้าวันที่ 16 พฤษภาคม 2552 (ตามเวลาประเทศไทย) องค์การอนามัยโลกได้รับรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จาก 34 ประเทศ รวม 7,520 ราย เสียชีวิต 65 ราย แยกเป็น เม็กซิโก 60 ราย สหรัฐอเมริกา 3 ราย แคนาดา 1 ราย และคอสตาริก้า 1 ราย ประเทศใหม่ที่มีรายงานผู้ป่วยวันนี้ คือ เบลเยี่ยม 1 ราย และประเทศที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มในรอบ 7 วัน ได้แก่ ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก โปแลนด์ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และเกาหลีใต้ สำหรับประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552 ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2552 ยังคงมีผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นการรับเชื้อมาจากต่างประเทศ ไม่มีผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ และมีผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวังที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 12 ราย ******************************** 16 พฤษภาคม 2552


   
   


View 14    16/05/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ