อธิบดีกรมการแพทย์ชี้ อาการของเด็กประสาทถดถอยที่จังหวัดลำปาง เรียกว่า โรคอะดรีโนลิวโคดีสโทรฟี่ เกิดจากเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทถูกทำลาย เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม การป้องกันจึงไม่ควรแต่งงานในเครือญาติที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ผู้หญิงที่มีลูกเป็นโรคนี้ควรคุมกำเนิด หากปล่อยให้มีลูก และลูกเป็นเพศชาย จะมีโอกาสเกิดโรคได้ร้อยละ 50 ส่วนใหญ่อาการมักปรากฏช่วงอายุ 4-7 ปี จากกรณีที่มีข่าวเด็กชายกฤษกรณ์ คำชัยวงศ์ หรือน้องจ๊าบ อายุ 12 ปี อยู่ที่จังหวัดลำปาง นักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเด็กเรียนเก่ง ฉลาดเกินวัย สอบได้เกรด 4 ทุกวิชา แต่ขณะนี้ป่วยเป็นโรคประหลาด ทำให้พัฒนาการทางสมองถดถอยกลับไปสู่วัยเด็ก เริ่มจากอาการตาพร่ามัว มองไม่เห็น เดินชนผนังห้องบ่อยๆ จนครูและเพื่อนๆ ต้องช่วยกันดูแลขณะร่วมกิจกรรม รวมทั้งพูดจาอ้อแอ้ไม่เป็นภาษาและเขียนหนังสือไม่ได้ โดยป่วยมาเป็นเวลา 1 ปี และก่อนหน้านี้พี่ชายของเด็กชายกฤษกรณ์ ก็ป่วยด้วยโรคเดียวกัน เมื่ออายุ 4 ปี ตามองไม่เห็นเช่นกัน ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันนี้ (3 มิถุนายน 2552) นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคที่เด็กชายกฤษกรณ์ เป็นนั้น ไม่ใช่โรคประหลาดแต่อย่างใด แต่เป็นโรคที่เกิดจากรรมพันธุ์ ถ่ายทอดทางโครโมโซมเอ็กซ์ (X) ซึ่งเป็นโครโมโซมเพศหญิง ทางการแพทย์เรียกโรคอะดรีโนลิวโคดีสโทรฟี่ หรือโรคเอแอลดี (Adrenoleukodystrophy : ALD) สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท โดยมีการทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท ที่เรียกว่ามายอีลิน ชีท (Myelin sheath) เนื่องจากมีการสะสมของกรดไขมันชนิดหนึ่งในอวัยวะต่างๆ ทำให้การทำงานของอวัยวะมีความผิดปกติ ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี พบเด็กป่วยโรคนี้ปีละประมาณ 3-4 ราย นายแพทย์เรวัต กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ซึ่งมีแม่เป็นพาหะ หากแม่มีลูกเป็นเพศชาย ลูกจะมีโอกาสเกิดโรคดังกล่าวได้ร้อยละ 50 แต่หากลูกเป็นเพศหญิง ร้อยละ 50 จะไม่มีอาการผิดปกติ แต่จะเป็นพาหะถ่ายทอดความผิดปกตินี้ทางโครโมโซมให้กับลูกได้ และอีกร้อยละ 50 จะเป็นปกติเหมือนเด็กทั่วไป โรคนี้ยังไม่มียารักษา มีเพียงวิธีเดียวคือการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งจะทำในกรณีที่สมองยังไม่ได้รับความเสียหายรุนแรงมาก สำหรับการป้องกัน ทำได้โดยครอบครัวที่มีประวัติโรคนี้ในเครือญาติ ควรหลีกเลี่ยงการแต่งงานกันในเครือญาติ มารดาที่มีบุตรเป็นโรคนี้ ควรคุมกำเนิด เป็นวิธีที่ดีที่สุด ********************************** 3 มิถุนายน 2552


   
   


View 11    03/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ