กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ในประเทศ ขณะนี้เริ่มพบผู้ติดเชื้อในประเทศ หลังพบลูกชายของผู้ป่วยยืนยันรายหนึ่งติดเชื้อด้วย ประกอบกับมีการเดินทางเข้าออกประเทศตลอดเวลา และมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ เสนอทุกฝ่ายซักซ้อมเตรียมความพร้อมรับมือ และปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยตั้งเป้าให้ความรู้ประชาชนเพื่อให้พบผู้ป่วยรวดเร็ว ควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้แพร่ขยายในวงกว้างและสิ้นสุดการระบาดภายใน 2 สัปดาห์ บ่ายวันนี้ (4 มิถุนายน 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานและพิจารณาปรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานของประเทศให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ พลตรีสนั่น กล่าวว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ และถือเป็นวาระสำคัญของประเทศ ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ โดยการดำเนินงานเน้น 3 เรื่อง คือ 1.ความร่วมมือของทุกหน่วยงานในการป้องกันควบคุมโรค โดยการให้ความรู้ ความเข้าใจ ส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันโรคและวิธีปฏิบัติตนในการดูแลตนเอง 2.ความโปร่งใสในการรายงานโรคและมาตรการป้องกันควบคุมโรค และ 3.การลดผลกระทบด้านสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ อย่างใกล้ชิด และมีการปรับมาตรการดำเนินงานให้เหมาะสมตลอดเวลา คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในอนาคต จะขยายวงกว้างต่อไปเรื่อยๆ จนเป็นโรคประจำถิ่นในที่สุด โดยทิศทางการแพร่ระบาดในทุกประเทศจะเป็นไปใน 3 ระยะคือ ระยะแรก (สถานการณ์ A) มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศและเดินทางเข้ามาในประเทศ การควบคุมทำได้โดยการแยกรักษา ให้ยาผู้สัมผัสเท่าที่จำเป็น ระยะต่อมา (สถานการณ์ B) เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งหากควบคุมได้ดี การระบาดจะอยู่ในวงจำกัด พบผู้ป่วยจำนวนหลายสิบคนหรือไม่เกินร้อย แต่ยังอยู่ในพื้นที่เดียวกัน การควบคุมจะใช้มาตรการล้อมกรอบคือ ให้ยาทั้งผู้ป่วยและผู้สัมผัสโดยไม่ต้องตรวจยืนยัน หยุดเรียนหรือหยุดงาน แยกผู้ป่วยให้อยู่ในบ้าน เป็นต้น ระยะต่อไป (สถานการณ์ C) มีการแพร่ระบาดขยายต่อไปในวงกว้างภายในประเทศ มีการแพร่ระบาดข้ามเมืองหรือทั้งประเทศ มีผู้ป่วยจำนวนหลายพันหรือหลายหมื่นคน มาตรการจะใช้วิธีลดผลกระทบ เช่น เน้นดูเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ให้เฉพาะผู้ที่ป่วยหยุดเรียนหรือหยุดงาน แทนการหยุดทั้งหมด นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในวันนี้ไทยพบผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เพิ่มอีก 3 ราย นับเป็นรายที่ 6,7 และ 8 โดยรายที่ 6 เป็นหญิงไทย อายุ 49 ปี เป็นภรรยาของผู้ป่วยยืนยันรายหนึ่ง มีประวัติเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยกัน เริ่มมีอาการปวดเมื่อยร่างกาย ระคายคอ ไม่มีไข้ ขณะเดินทางกลับไทยเมื่อ 25 พฤษภาคม 2552 ไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล ขณะนี้อาการหายดีแล้ว ขณะเดียวกันลูกชายอายุ 19 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ ก็ติดเชื้อด้วยเนื่องจากเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด นับเป็นรายที่ 7 ส่วนรายที่ 8 เป็นหญิงไทยอายุ 20 ปี เริ่มมีอาการเจ็บคอ ก่อนออกเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 ถึงประเทศไทยวันที่ 1 มิถุนายน 2552 เริ่มมีอาการคัดจมูก ไอ ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2552 จากการพบการติดเชื้อในประเทศ ทำให้ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศ จึงเริ่มพบผู้ติดเชื้อในประเทศ ซึ่งติดจากผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ การดำเนินงานจะต้องเน้นการป้องกันการแพร่เชื้อในประเทศ เฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ให้การรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามผู้สัมผัสโรคเพื่อป้องกันควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว และให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันตนเองและลดการแพร่กระจายเชื้อ นายวิทยา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาค แต่ละวันมีผู้เดินทางเข้าประเทศจำนวนมาก จึงมีโอกาสที่ผู้เดินทางจะนำเชื้อเข้าประเทศทุกวัน กระทรวงสาธารณสุขและทุกกระทรวงจะเตรียมป้องกันการแพร่เชื้อในประเทศอย่างเต็มที่ โดยปรับมาตรการดำเนินงานให้มีความพร้อมใน 3 ประเด็นหลัก คือ การซักซ้อมความพร้อมตามภารกิจรับผิดชอบ การป้องกันควบคุมโรคโดยใช้มาตรการด้านชุมชนและสังคม เช่น ส่งเสริมการล้างมือ ใช้หน้ากากอนามัย ให้ผู้ป่วยหยุดเรียน หรือปิดโรงเรียน/สถานที่ ลดการชุมนุม และปรับวิธีทำงาน คงบริการ และช่วยเหลือพนักงาน เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายว่าจะตรวจพบผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว และหากมีการระบาดขึ้นก็จะควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัด และให้สิ้นสุดภายใน 2 สัปดาห์ **************************** 4 มิถุนายน 2552


   
   


View 11    04/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ