สาธารณสุข ผลักดันนโยบายการส่งเสริมสุขภาพ ให้คนไทยมีสุขภาพดี แข็งแรง อย่างเป็นรูปธรรม โดยพัฒนายกระดับสถานีอนามัย 2,000 แห่ง ให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีนี้ 1,000 แห่งในทุกอำเภอทั่วประเทศ ในปี 2553 เพิ่มอีก 1,000 แห่ง นำระบบรักษาผู้ป่วยทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ตออนไลน์มาใช้ แพทย์โรงพยาบาลอำเภอ สามารถตรวจวินิจฉัยพูดคุยกับคนไข้ได้ ให้การรักษามาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลใหญ่
วันนี้(8 มิถุนายน 2552) ที่โรงแรมเวียงอินทร์ จ.เชียงราย นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/ โรงพยาบาลทั่วไป สาธารณสุขอำเภอ หัวหน้าสถานีอนามัย กว่า 500 คนที่ปฏิบัติงานใน 14 จังหวัดในภาคเหนือ เพื่อชี้แจงนโยบายการพัฒนายกระดับสถานีอนามัยให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้สะดวกและลดจำนวนผู้เจ็บป่วยให้น้อยลง หลังจากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการดำเนินงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและระบบส่งต่อ ที่สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจขาดเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นปัญหาสาธารณสุข ที่ทำให้คนไทยป่วย พิการ และเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร และส่งผลกระทบไปถึงครอบครัว ชุมชน เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ องค์การอนามัยโลกได้ระบุว่าในปี 2548 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคเรื้อรัง 35 ล้านคน หรือประมาณ 2 เท่าของผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อทั้งหมด
นายวิทยากล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเร่งส่งเสริมสุขภาพ สร้างสุขภาพดีคนไทย เพื่อลดโรค ลดจำนวนการเจ็บป่วยของประชาชน และจะผลักดันให้เป็นรูปธรรมอย่างเร่งด่วน โดยมุ่งที่การควบคุมป้องกันปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ลดการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา จัดการอารมณ์ ส่งเสริมพฤติกรรมกินอาหาร ลดอาหารหวานมัน เค็ม เพิ่มการกินผักผลไม้ ส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อควบคุมโรคอ้วน ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ หมู่บ้านหรือชุมชน สามารถร่วมกันจัดการในท้องถิ่นได้ โดยจะพัฒนาสถานีอนามัยที่มีอยู่ทุกตำบลทั่วประเทศอยู่แล้ว 9000 แห่ง จากที่มีทั้งหมด 9,810 แห่ง ให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ระหว่างพ.ศ. 2552-2555 มีศักยภาพในการดูแลและให้บริการครอบคลุม ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมป้องกันโรค และฟื้นฟูสุขภาพ ตลอดจนสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและความเข้มแข็งให้ชุมชน ในการจัดระบบสุขภาพตนเอง
ในปี 2552-2553 ตั้งเป้าดำเนินการ 2,000 แห่ง โดยกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรงบประมาณให้แห่งละ 1 ล้านบาท และจากสป.สช.อีกแห่งละ 2 แสนบาท เพื่อจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น และติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตออนไลน์ ให้พยาบาลที่ประจำสถานีอนามัยและผู้ป่วย ปรึกษาพูดคุย ซักถามอาการและเห็นหน้าผู้ป่วยให้การรักษาทางอินเตอร์เน็ต กับแพทย์ที่โรงพยาบาลอำเภอโดยตรง รักษามาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลใหญ่ ซึ่งบางโรคผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปรักษาในโรงพยาบาล จะช่วยลดความแออัดที่โรงพยาบาลใหญ่ และประหยัดค่าเดินทางของประชาชนด้วย
ทางด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลของการตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล จะทำให้ประชาชนได้รับบริการที่สูงขึ้น ครอบคลุมบริการขั้นพื้นฐานเช่น ฉีดวัคซีน การฝากครรภ์ครบตามเกณฑ์มาตรฐาน ผู้ที่ป่วยจากโรคเรื้อรังที่ต้องนอนฟื้นฟูที่บ้านจะได้รับการดูแลที่ดีขึ้น ลดการป่วยจากโรคแทรกซ้อน อัตราเสียชีวิตลดลง
******************** 8 มิถุนายน 2552
View 9
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ