กระทรวงสาธารณสุขขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ วันนี้อีก 3 ราย รวมทั้งหมด 16 ราย ทุกรายอาการดี และส่งรถปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เชื้อเคลื่อนที่ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำการที่ชลบุรี ร่วมตรวจค้นหาผู้ป่วยที่อาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ที่พัทยา พร้อมกำชับให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัด ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ตรวจคัดกรอง ซักประวัติผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดทุกราย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อค้นหาผู้ป่วยให้เร็วที่สุด เพราะโรคนี้รักษาหายและป้องกันได้ บ่ายวันนี้ (10 มิถุนายน 2552) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ. มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสิรินธร เขตประเวศ ซึ่งกทม.สร้างขึ้น เพื่อรองรับความต้องการรักษาพยาบาลของชาวกทม.ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในโอกาสนี้ได้ร่วมเป็นเครือข่ายรักษาผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในข่ายสงสัยเป็นไข้หวัดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วย โดยโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยได้ 210 เตียง มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทางการแพทย์ครบถ้วน พร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย สามารถให้การรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ และไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นนายวิทยาและคณะ ได้เดินทางไปที่จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรี และโรงพยาบาลบางละมุง อ.พัทยา จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขไต้หวันว่า ตรวจพบนักท่องเที่ยวไต้หวัน 2 รายป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หลังเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยร่วมกับกลุ่มทัวร์ชาวไต้หวัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว ลงสอบสวนโรคที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ค้นหาผู้ป่วย และส่งเสมหะตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อค้นหาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยประสานการทำงานกับหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ ได้แก่ เทศบาลเมืองพัทยา โรงพยาบาลบางละมุง โรงพยาบาลสัตหีบ อ.ศรีราชา นายวิทยา กล่าวว่า ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งรถปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เชื้อเคลื่อนที่ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์หรือโมบายแล็บ อีก 1 คัน ไปตั้งที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรีด้วย เพิ่มความรวดเร็วในการตรวจตัวอย่างจากผู้สงสัยติดเชื้อ ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังพัฒนาระบบการตรวจ ร่วมกับ สถาบันต่างๆ ในเครือข่ายศูนย์ตรวจปฏิบัติการแห่งชาติ ซึ่งจะสามารถตรวจได้จำนวนมากขึ้นและรายงานผลเร็วขึ้น นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุข ขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันอีก 3 ราย รวมทั้งหมด 16 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต โดยรายที่ 14 เป็นชายอายุ 20 ปี เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาถึงไทยวันที่ 7 มิถุนายน 2552 เริ่มมีไข้ ไอ มีน้ำมูก ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ขณะนี้อาการปกติ รายที่ 15 เป็นชายอายุ 20 ปี กลับจากสหรัฐอเมริกาถึงไทยวันที่ 7 มิถุนายน เริ่มป่วยมีอาการไอ ไปรักษาที่โรงพยาบาลวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ผู้สัมผัสร่วมบ้านของทั้ง 2 รายอยู่ในการติดตามอาการของกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ทุกคนปกติดี และรายที่ 16 เป็นเด็กชายอายุ 11 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ วันที่ 6 มิถุนายน 2552 เริ่มมีไข้ ไอ ไปรักษาที่โรงพยาบาล ตรวจพบไข้สูง แพทย์จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจไข้หวัดใหญ่พบว่าติดเชื้อ ขณะนี้ยังรักษาที่โรงพยาบาล และได้ส่งทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วลงสอบสวนสาเหตุของการติดเชื้อ ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ของประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง โดยขณะนี้อยู่ในขั้นที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ แต่เริ่มพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศแล้ว 1 ราย และอาจพบเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป มาตรการสำคัญที่ต้องดำเนินการตอนนี้คือ การควบคุมโรคในประเทศ โดยการค้นหาผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและจำกัดไม่ให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ได้กำชับให้สถานพยาบาลในสังกัดทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ตรวจคัดกรอง ซักประวัติผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติทุกรายที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัด เพื่อค้นหาผู้ป่วยให้เร็วที่สุด และให้การรักษา เพราะโรคนี้รักษาหาย รวมทั้งสามารถป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดได้ เพราะหากทุกฝ่ายให้ความสนใจและร่วมมือ โดยเฉพาะประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หากมีอาการไม่สบายมีไข้ ไอเล็กน้อย หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย แม้อาการจะเล็กน้อยก็ตาม ขอให้รีบพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางจากต่างประเทศ รวมทั้งช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศแลมีอาการไม่สบาย แนะนำให้รีบไปพบแพทย์เช่นกัน ************************************ 10 มิถุนายน 2552


   
   


View 14    10/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ