กระทรวงสาธารณสุข เร่งพัฒนาธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจรักษาพยาบาลของไทย ให้เป็นศูนย์กลางระดับเอเชีย ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางระดับนานาชาติ ภายใน 5 ปี หวังดึงเงินต่างชาติไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท พร้อมประกาศลงดาบธุรกิจนวดไทย สปา ทันที หากพบขายบริการเซ็กส์แอบแฝง เพื่อรักษาคุณภาพและชื่อเสียงสปาไทย บ่ายวันนี้ (11 มิถุนายน 2552) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงาน มหกรรมสุขภาพดีมีสุข จังหวัดภูเก็ต ( PHUKET Health and wellness Festival 2009) พร้อมมอบเกียรติบัตรรับรองมาตรฐานสปาเพื่อสุขภาพและนวดเพื่อสุขภาพ แก่ผู้ประกอบการ 100 ราย ที่ ศูนย์การค้าจังซีลอน อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต จัดโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสมาคมสปาภูเก็ต โรงพยาบาลรัฐและเอกชน โรงเรียนการนวดไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 11–13 มิถุนายน 2552 เพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจบริการสุขภาพของจังหวัดภูเก็ต ให้เป็นที่รู้จักนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ นายวิทยากล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาธุรกิจบริการสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสปาและนวดไทย ให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับโลก เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวต่างชาติ สร้างรายได้เข้าประเทศในปี 2551 เป็นเงินกว่า 12,000 ล้านบาท โดยขณะนี้ มีสถานประกอบการธุรกิจบริการสุขภาพ ได้แก่ สปาเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมสวย 6,049 แห่ง ในจำนวนนี้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข 1,210 แห่ง มีผู้ให้บริการผ่านการอบรมความรู้ความชำนาญกว่า 7,000 คน “กระทรวงสาธารณสุข เตรียมแผนพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติให้ได้ภายในพ.ศ.2556 โดยเน้น 2 บริการหลัก คือ ธุรกิจรักษาพยาบาล และบริการสปาเพื่อสุขภาพ เน้นบริการที่ได้มาตรฐาน ถูกต้องตามหลักวิชาการ และเข้าถึงหัวใจลูกค้า เนื่องจากทิศทางตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเกิดการแข่งขันในภูมิภาคเอเชีย ตั้งเป้าดึงรายได้เข้าประเทศเพิ่มจากหลักหมื่นล้านบาทให้ได้หลักแสนล้านบาทต่อปี คาดว่าภายใน 5 ปี จะนำรายได้เข้าประเทศได้ไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท” นายวิทยากล่าว นายวิทยากล่าวต่อว่า ปัญหาที่ต้องเร่งกวาดล้างในภาคบริการสปา ซึ่งมักมีข่าวขายบริการทางเพศแอบแฝง ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเสื่อมเสียชื่อเสียงบริการด้านนี้ของไทยได้ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดการขั้นเด็ดขาด หากตรวจพบว่าบริการสุขภาพ ทั้งกิจการสปาเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อการเสริมสวย ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข ตามพ.ร.บ.สถานบริการพ.ศ.2509 แก้ไขปรับปรุงพ.ศ. 2551 มีการขายบริการทางเพศแอบแฝง จะถอนทะเบียนและลงโทษทันที เพื่อรักษาคุณภาพสปาไทย และประสานกระทรวงมหาดไทยให้จัดการขั้นเด็ดขาดสถานบริการอื่นๆ ที่แอบอ้างบริการนวดไทยด้วย ด้านนายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในการพัฒนาสปาไทยให้ได้มาตรฐานระดับโลก จะดำเนินการ 5 ด้าน ได้แก่ การบริการ ผู้ให้บริการ เครื่องมือและอุปกรณ์ การบริหารและการจัดการองค์กร สถานที่และสิ่งแวดล้อม มี 3 ระดับ ได้แก่ แพลทตินั่ม โกลด์ และซิลเวอร์ ในปี 2551 มีสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลแล้ว 21 แห่ง โดยจังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และเป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพของเอเชียและนานาชาติ ตั้งแต่ ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ทางด้านนายแพทย์พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัด ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับต้น ๆ ของโลก มีนักท่องเที่ยวปีละกว่า 5 ล้านคน สร้างรายได้ปีละกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะนี้มีสถานบริการสุขภาพที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน 161 แห่ง เป็นสปาเพื่อสุขภาพ 63 แห่ง และนวดเพื่อสุขภาพ 98 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 10-15 ของจำนวนสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากทั่วประเทศ ในจำนวนนี้มีสปาชื่อ“สุโขสปา” ที่พัฒนาตนเองจนชนะการประกวดมาตรฐานระดับประเทศ ได้รับรางวัล “Thailand SPA of Year 2008 – 2009” และได้รับรางวัลระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “Award of The Best Day SPA in Southeast Asia” โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ติดตามตรวจประเมินคุณภาพของสถานประกอบการบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และจะเร่งพัฒนาสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพให้เข้าสู่การรับรองมาตรฐานสากลมากขึ้น ******************************** 11 มิถุนายน 2552


   
   


View 11    11/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ