รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำชับทุกจังหวัดเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เน้นประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ ให้ประชาชนรู้จักการป้องกันตัวเพื่อไม่ให้ติดเชื้อ รวมทั้งการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการป่วย ด้านสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย จัดอบรมเสริมความรู้เจ้าหน้าที่ในสังกัด และครู พร้อมรับมือหากเกิดการระบาดในพื้นที่ วันนี้ (17 มิถุนายน 2552) ที่โรงพยาบาลสุโขทัย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการอบรมครู อาจารย์ จากโรงเรียนในจังหวัดสุโขทัย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากทุกอำเภอ รวม 400 คน เพื่อเสริมสร้างความรู้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 เป็นการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรค นายมานิต กล่าวว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ มีแนวโน้มพบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นในหลายจังหวัดอย่างต่อเนื่อง และช่วงนี้ยังเป็นช่วงของการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลด้วย ซึ่งข้อมูลทางวิชาการพบว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ มีอาการคล้ายกันกับไข้หวัดทั่วไปหรือไข้หวัดใหญ่ธรรมดา การติดต่อเหมือนกัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการน้อยและหายป่วยได้เอง โดยไม่ต้องไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล แนวทางสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขจึงมุ่งเน้นการให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อให้รู้จักการป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อ รวมทั้งการปฏิบัติตัวไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นเมื่อเกิดอาการป่วย โดยยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ไม่ใช้แก้วน้ำ หรือหลอดดูดน้ำร่วมกัน และใช้หน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้ โดยได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ความรู้ให้กับประชาชนทุกกลุ่มภายในจังหวัดอย่างทั่วถึง ทางด้านนายแพทย์บุญเติม ตันสุรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า แม้ว่าผลการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ในจังหวัดสุโขทัย ที่ผ่านมายังไม่พบผู้ป่วยในพื้นที่ แต่เพื่อเตรียมพร้อมในเรื่องนี้ สำนักงานสาธารณสุขได้จัดอบรมครู อาจารย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจังหวัดสุโขทัย เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จะได้ช่วยกันเฝ้าระวัง ป้องกันโรค และนำไปถ่ายทอดให้กับบุคลากรในสังกัด นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และสามารถรับมือได้หากเกิดการระบาดในพื้นที่ นายแพทย์บุญเติม กล่าวต่อว่า ในส่วนของโรงเรียน สถานศึกษานั้นได้ขอความร่วมมือให้ตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่ขาดเรียนในแต่ละวัน หากพบขาดเรียนผิดปกติหรือตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปในห้องเรียนเดียวกัน และสงสัยว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่เพื่อสอบสวนและควบคุมโรค และขอความร่วมมือให้โรงเรียน สถานศึกษาทุกแห่ง ทำความสะอาดอุปกรณ์ สิ่งของ เครื่องใช้ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมากเช่น โต๊ะเรียน ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ราวบันได แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ โดยใช้น้ำผสมผงซักฟอกเช็ดทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง จัดให้มีอ่างล้างมือ น้ำ และสบู่อย่างเพียงพอ ทั้งนี้หากสถานศึกษาสามารถให้นักเรียน นักศึกษาที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ทุกคนหยุดเรียนได้ ก็จะป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้โดยไม่จำเป็นต้องต้องปิดสถานศึกษา ******************************* 17 มิถุนายน 2552


   
   


View 11    17/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ