สธ. จัดรณรงค์ความรู้และสุขนิสัยเพื่อสุขภาพคนไทยตลอดปี หวังลดจำนวนคนป่วยโรคไข้หวัดใหญ่

กระทรวงสาธารณสุข จัดปีรณรงค์เพื่อสุขภาพคนไทยพร้อมกันทั่วประเทศตลอดปี เพื่อลดจำนวนคนป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เริ่มวันนี้ในเขตกทม.เริ่มต้นจากโรงเรียน สถานประกอบการและขยายผลไปยังที่อื่นๆ โดยจัดประชุมชี้แจงอสม.กว่า 970,000 ในวันอาทิตย์ เผยวันนี้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เพิ่มอีก 113 ราย ทุกรายอาการไม่รุนแรง ยังไม่มีเสียชีวิต วันนี้(18 มิถุนายน 2552 )ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง แถลงข่าวการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในวันนี้ (18 มิถุนายน 2522) ว่า ในวันนี้ได้รับรายงานผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อเพิ่มอีก 113 ราย โดยเป็นผู้ป่วยรายใหม่เพียง 18 ราย ในจำนวนนี้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 2 ราย ที่เหลือติดเชื้อในประเทศ ทุกรายอาการดีขึ้น ขณะนี้ยังมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเพียง 12 รายเท่านั้น ที่เหลือรักษาหายเป็นปกติแล้ว เพราะโรคนี้มีอาการไม่ร้ายแรง ไม่มีรายงานการเสียชีวิต ขอยืนยันว่าที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบมาตลอด ไม่เคยปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด และมีการทำงานร่วมกับองค์การอนามัยโลกมาโดยตลอดทุกวัน โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับห้องปฏิบัติการของทบวงมหาวิทยาลัยได้ทำการตรวจวิเคราะห์ยืนยันเชื้อทุกวัน เมื่อทราบผลกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะส่งข้อมูลให้สำนักระบาดวิทยา ดำเนินการเฝ้าติดตามผู้ป่วยและผู้สัมผัส เพื่อควบคุมการระบาดของโรค นายวิทยากล่าวต่อไปว่า จากกรณีมีข่าวว่าโรงพยาบาลเอกชนเก็บค่าตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่ราคาสูงถึง 6,000- 9,000 บาทนั้น ได้มอบหมายให้นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประสานงานกับโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูกาลการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลอยู่แล้วทุกปี มีการศึกษาปัญหาของโรคประมาณว่ามีผู้ป่วยปีละ 900,000 ราย ในจำนวนนี้ต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลจากปอดอักเสบ 36,000 ราย เสียชีวิต 320 ราย ปีนี้มีโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 เพิ่มมาอีกอาจทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ดังนั้นในปีนี้ จึงได้จัดให้เป็นปีรณรงค์เพื่อสุขภาพตลอดปี เพื่อลดจำนวนคนป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งชนิดเก่าและชนิดใหม่ไปพร้อมๆกัน เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นไป โดยรณรงค์ประชาชนสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้โรคไข้หวัดใหญ่ทั้งสายพันธ์2009 และสายพันธ์ที่ระบาดตามฤดูกาลให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ป่วย รวมทั้งสั่งการให้ทุกจังหวัด ให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่ในการป้องกันโรค โดยในวันอาทิตย์นี้ได้ให้เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยทั่วประเทศ จัดประชุมชี้แจงอสม. กว่า 970,000 คนทั่วประเทศ เพื่อให้ อสม.นำไปขยายผลรณรงค์แจกเอกสารความรู้โรคไข้หวัดใหญ่ ในหมู่บ้านที่รับผิดชอบต่อไป และให้ผู้บริหารส่วนกลางและภูมิภาคได้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทุกระดับ ออกรณรงค์ในพื้นที่เป้าหมายได้แก่โรงเรียน โรงงาน และห้างสรรพสินค้าทั้งในเขตกทม.และต่างจังหวัด นายวิทยากล่าวต่อไปว่า จะประสานกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจัดส่งให้แพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ออกไปให้ความรู้เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ แก่เด็กนักเรียนทุกโรงเรียนทั่วประเทศ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สถานีอนามัยติดตามประเมินผลทุกสัปดาห์ ทั้งนี้ในวันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2552 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดรายการ ให้ความรู้ประชาชนเรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่เวลา 20.30 น.ถึงเวลา 22.00 น. เป็นรายการสด โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการจากสถาบันต่างๆ เช่น ศ.เกียรติคุณนายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ ศ.นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพทย์หญิงสยมพร ศิรินาวิน คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา เลขาธิการแพทยสภา นายแพทย์ศุภมิตร ชุณหสุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และผู้แทนองค์การอนามัยโลก ร่วมรายการสด ประชาชนสามารถโทรสอบถามได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดนักวิชาการตอบคำถามไว้จำนวนมาก ทางด้านนายสมชาย พีรปกรณ์ เจ้าหน้าที่ชำนาญการ สำนักงานผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวถึงมีรายงานพบเชื้อไข้หวัดใหญ่2009 ที่ประเทศบราซิลมีการกลายพันธุ์ ว่า ได้รับทราบแล้ว เนื่องจากประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกต้องส่งรายงานให้องค์การอนามัยโลกรับทราบอยู่แล้ว เพื่อรู้สถานการณ์ของโรค และวิเคราะห์ความรุนแรง ขอบเขตการระบาดของโรค ซึ่งการที่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 กลายพันธุ์นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นธรรมชาติของเชื้อไวรัส ที่มีกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา แต่บอกไม่ได้ว่าเชื้อที่กลายพันธุ์จะมีความรุนแรงมากหรือน้อยกว่าเดิม จะต้องใช้การระดมความคิดเห็นจากนักวิทยาศาสตร์ แต่ขณะนี้เชื้อพันธุ์ใหม่ที่แพร่ในไทยขณะนี้ไม่รุนแรงไปกว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่เกิดในฤดูกาลที่มีอยู่เดิม