สธ.วางยุทธศาสตร์พัฒนาสุขภาพจังหวัดชายแดนใต้ เน้นความปลอดภัย คุณภาพบริการ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วางยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาสุขภาพพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เน้นความปลอดภัยเจ้าหน้าที่และอาคารสถานที่ ยกระดับมาตรฐานสถานบริการให้ประชาชนพึงพอใจ แก้ปัญหาสุขภาพเฉพาะพื้นที่ เร่งลดอัตราตายมารดาทารก และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ วันนี้ (22 ธันวาคม 2549) นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย แพทย์หญิงทิพย์วดี บำเพ็ญบุญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการฯ นายแพทย์สุวัจน์ เฑียรทอง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้อำนวยการศูนย์นเรนทร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและรับฟังปัญหาจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลยะรัง โรงพยาบาลมายอ และโรงพยาบาลกะพ้อ จังหวัดปัตตานี นายแพทย์มงคล กล่าวว่า การนำคณะผู้บริหารลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ครั้งนี้ นอกจากจะรับฟังปัญหาอุปสรรคในการทำงานและวางแผนแก้ไขเพื่อพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพแล้ว ที่สำคัญต้องการมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ต้องทำงานท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทุกคนยังคงมีจิตใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะทุ่มเท เสียสละทำงานเพื่อประชาชน ทั้งเรื่องอนามัยแม่และเด็ก โรคเรื้อรัง และการป้องกันควบคุมโรคติดต่อ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 3 ปี ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขบ้าง โดยเจ้าหน้าที่จะมีความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางมาทำงาน ส่วนการทำงานเชิงรุกทั้งการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในพื้นที่ บางแห่งทำได้น้อยลง ทำให้ประชาชนได้รับบริการไม่เต็มที่ ซึ่งก็ได้มีการปรับแผนการดำเนินงานให้มีความปลอดภัยมากขึ้นทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ นายแพทย์มงคล กล่าวต่อไปว่า ในการสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาตร์ของประเทศในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายด้านสุขภาพ มี ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย เป็นประธาน ทำหน้าที่พัฒนายุทธศาสตร์และกลไกด้านสุขภาพ และจัดตั้งศูนย์บริหารการพัฒนาสุขภาพระดับพื้นที่ (ศบ.สต.) มีนายแพทย์สุวัจน์ เฑียรทอง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะกรรมการศูนย์ฯ มีหน้าที่วางยุทธศาสตร์การดำเนินงาน โดยทั้ง 2 หน่วย จะเชื่อมโยงการทำงานกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ด้านนายแพทย์สุวัจน์ เฑียรทอง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้วางยุทธศาสตร์การดำเนินงานสาธารณสุขในพื้นที่ภาคใต้ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.ความปลอดภัยในการทำงานทั้งด้านตัวเจ้าหน้าที่และอาคารสถานที่ 2.การพัฒนาระบบบริการ โดยมุ่งเน้นเรื่องการยกมาตรฐานสถานบริการ สร้างความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ รวมทั้งการอบรมเพิ่มขีดความสามารถของ อสม. 3.การแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาอนามัยแม่และเด็ก ลดอัตราตายของมารดาและทารก 4.การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ทั้งเจ้าหน้าที่และครอบครัว ประชาชนทั่วไป และผู้ที่พิการ และ 5.การสนับสนุนการบริหารจัดการด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านกำลังคน ทั้งการผลิตและการกระจาย ด้านสวัสดิการ และด้านงบประมาณ โดยแผนปฏิบัติการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ นายแพทย์สุวัจน์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญกับบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้อย่างมาก และได้จัดสิ่งสนับสนุนตลอดจนสวัสดิการต่างๆ เพื่อตอบแทนความเสียสละและสร้างขวัญกำลังใจอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการหาตำแหน่งเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการ การปรับเปลี่ยนตำแหน่งพยาบาลเทคนิคเป็นพยาบาลวิชาชีพ ปรับตำแหน่งหัวหน้าสถานีอนามัยจากระดับ 6 เป็นระดับ7 เพิ่มค่าตอบแทนการอยู่เวรยามนอกเวลาราชการ และการจัดหาครุภัณฑ์สิ่งก่อสร้าง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานในสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ภาคใต้ ประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรเช่นเดียวกับภาคอื่นๆ แต่เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นยิ่งเป็นตัวเสริมทำให้ประชาชนได้รับบริการไม่เต็มที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำงานเชิงรุกในพื้นที่ยากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาอนามัยแม่และเด็ก ขณะนี้อัตราตายของมารดาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังสูงถึง 33.2 ต่อแสนการเกิดมีชีพ เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดให้ไม่เกิด 18 ต่อแสนการเกิดมีชีพ ภาวะโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์พบร้อยละ 19.16 สูงกว่าเป้าที่กำหนดไม่เกินร้อยละ 10 ซึ่งต้องเร่งแก้ไขต่อไป สำหรับสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ สถานีอนามัยตำบลปานัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ซึ่งถูกลอบวางเพลิงเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2549 ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเรื่องเสนอเข้า ครม. เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างอนามัยหลังใหม่พร้อมวัสดุครุภัณฑ์ประจำทดแทน รวมมูลค่า 4.63 ล้านบาท ส่วนสถานีอนามัยบ้านฆอรอราแม ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ที่ถูกลอบวางเพลิงเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้ให้ผู้บริหารในพื้นที่ทำการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลความเสียหาย เพื่อเสนอรับความช่วยเหลือต่อไป ************************ 22 ธันวาคม 2549