สาธารณสุขจับมือกระทรวงยุติธรรม เฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเรือนจำ ทัณฑสถานทั่วประเทศ สั่งการสาธารณสุขจังหวัดที่มีเรือนจำตั้งอยู่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความรู้ แนะนำการปฎิบัติตัว พร้อมตั้งมิสเตอร์ไข้หวัดใหญ่ประจำเรือนจำทุกแห่ง ดูแลระบบการควบคุมป้องกันโรค หากพบญาติผู้ต้องขังเป็นไข้หวัดขณะเยี่ยม แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย โดยมอบคู่มือประชาชนรู้เท่าทันเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ โปรสเตอร์ แผ่นพับ 10,000 ชุด และหน้ากากอนามัย เพื่อใช้ในการควบคุมป้องกันโรคในเรือนจำ วันนี้(24 มิถุนายน 2552) ที่กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย นายอุทัยรัตน์ ชัยประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายนัทธี จิตสว่างอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และดร.นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมประชุมหารือมาตรการดำเนินงานควบคุมและป้องกันโรคไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ 2009 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานทั้ง 145 ทั่วประเทศ โดยได้มอบสมุดปกเขียวคู่มือประชาชนเรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ โปสเตอร์ แผ่นพับ กว่า 10,000 ชุดและหน้ากากอนามัย ให้กรมราชทัณฑ์ เพื่อใช้ในการป้องกันโรคด้วย นายวิทยา กล่าวว่า เรือนจำ/ทันฑสถานจัดเป็นจุดเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากมีผู้ต้องขังอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ทั่วประเทศมีผู้ต้องขังกว่า 162,232 คน แม้ว่าขณะนี้ยังไม่ปัญหาโรคแพร่ระบาดในเรือนจำก็ตาม หากไม่มีมาตรการในการควบคุมป้องกันโรคที่เข้มแข็งพอ เสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโรคได้ง่าย กระทรวงสาธารณสุขได้ขอความร่วมมือกระทรวงยุติธรรม ในการเฝ้าระวังป้องกัน โดยให้ตั้งมิสเตอร์ไข้หวัดใหญ่ในเรือนจำ/ทันฑสถานทั้ง 145 แห่ง เพื่อรับผิดชอบด้านการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 และเป็นแกนหลักประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อย่างใกล้ชิด นายวิทยา กล่าวต่อว่า การควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ในเรือนจำทำได้ไม่ยากนัก เนื่องจากเป็นสถานที่ปิด กลุ่มคนที่ต้องเข้มงวด ได้แก่ กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานในเรือนจำ ญาติที่เข้าเยี่ยม และผู้ต้องขังรายใหม่ เนื่องจากอาจนำเชื้อเข้าไปแพร่ให้ผู้ต้องขังได้ หากพบว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรงดเข้ามาสัมผัสกับผู้ต้องขัง หรือหากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ส่วนผู้ต้องขัง หากพบว่าป่วย ต้องรีบแยกออกจากผู้ต้องขังรายอื่นทันที ให้อยู่ในห้องแยก และให้การรักษาตามอาการจนกว่าจะหายดี และหากพบผู้ต้องขังป่วย 3 คนขึ้นไปพร้อมๆกัน ต้องรีบเข้าไปสอบสวนและควบคุมโรคทันที ทั้งนี้ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขในจังหวัดที่มีเรือนจำ/ทันฑสถานตั้งอยู่ ส่งเจ้าหน้าเข้าไปให้ความรู้ การป้องกันตัว รวมทั้งสนับสนุนทีมสอบสวนควบคุมโรค ยา เวชภัณฑ์หากเกิดการระบาดของโรคในเรือนจำ ด้าน ดร.นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้จัดทำคู่มือประชาชน โปสเตอร์ แผ่นพับ เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 10,000 ชุดและหน้ากากอนามัย มอบให้กระทรวงยุติธรรมเพื่อให้เรือนจำ/ทันฑสถานทั่วประเทศ ใช้ในการควบคุมป้องกันโรค และขอย้ำว่าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีความรุนแรงเท่ากับไข้หวัดใหญ่ธรรมดา สามารถป้องกันได้ง่ายโดยการล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ ใช้กระดาษทิชชูปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีคนแออัด เมื่อมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ พักอยู่ที่บ้าน ให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ถ้ามีอาการมากขึ้นเช่นไข้สูง ชัก เหนื่อย หอบ หายใจลำบาก ให้พบแพทย์ *************** 24 มิถุนายน 2552


   
   


View 9    24/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ