สาธารณสุข ใช้กลยุทธ์สกัดกั้นป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว เร่งรณรงค์ให้ความรู้ในโรงงาน ด้วยโปสเตอร์และแผ่นพับภาษาพม่าและมอญ โดยพนักงานสาธารณสุขต่างด้าวและอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว และรณรงค์ทำความสะอาดทั้งโรงงานและที่พักอาศัยอย่างต่อเนื่อง บ่ายวันนี้ (30 มิถุนายน 2552) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยดร.นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เดินทางไปเยี่ยมชมการรณรงค์ทำความสะอาดสถานที่ทำงานและที่พัก เพื่อให้ความรู้ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่โรงงานแปรรูปอาหารทะเล “ล้งลุงแบน” ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมมอบโปสเตอร์และแผ่นพับภาษาพม่าและมอญ หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ให้กับพนักงานสาธารณสุขต่างด้าวและอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวประมาณ 1,000 คน นายวิทยา กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกขณะนี้ กระจายไปกว่า 100 ประเทศ แต่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เช่น มีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย น้ำมูกไหล บางรายท้องเสีย ซึ่งกว่าร้อยละ 90 หายได้เอง โรคนี้ติดต่อกันง่ายทางการไอจาม รดกัน และคนส่วนมากยังไม่มีภูมิต้านทานเชื้อนี้ ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 คือ อายุน้อยกว่า 5 ปี อายุมากกว่า 65 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด หัวใจ เป็นต้น จึงคาดการณ์ว่าเชื้อจะมีการแพร่กระจายออกไปทุกพื้นที่ทุกจังหวัด เนื่องจากสถานประกอบการเป็นแหล่งที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ทำงานเป็นกะ และอยู่ในห้องแอร์ โอกาสแพร่เชื้อจึงมีตลอด 24 ชั่วโมง การป้องกันส่วนบุคคลจึงสำคัญที่สุด ได้แก่ การล้างมือบ่อยๆ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลเช็ดมือ การใช้หน้ากากอนามัยปิดปาก/จมูกหากเป็นไข้หวัด หากไอ/จามให้ใช้กระดาษทิชชูปิดปากและจมูก แล้วทิ้งลงถังขยะที่ปิดมิดชิดเพื่อนำไปเผา ตลอดจนการดูแลทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ ด้านดร.นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า โรงงาน สถานประกอบการและสถานที่ทำงาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้ 1.แนะนำให้พนักงานที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ พักรักษาตัวที่บ้าน หากมีอาการป่วยรุนแรง เช่น ไข้สูง เหนื่อยหอบ ซึม หายใจไม่ออก ควรรีบไปพบแพทย์ 2.ตรวจสอบจำนวนพนักงานที่ขาดงานในแต่ละวัน หากพบขาดงานผิดปกติหรือตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ในแผนกเดียวกัน และสงสัยว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อสอบสวนและควบคุมโรค 3.แนะนำให้พนักงานที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เฝ้าสังเกตอาการของตนเองเป็นเวลา 7 วัน ถ้ามีอาการป่วยให้หยุดพักรักษาตัวที่บ้าน 4.ในสถานการณ์ปัจจุบัน ยังไม่แนะนำให้ปิดสถานประกอบการหรือสถานที่ทำงาน เพื่อการป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่5.ควรทำความสะอาดอุปกรณ์ สิ่งของเครื่องใช้ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก เช่น โต๊ะทำงาน ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ราวบันได คอมพิวเตอร์ ฯลฯ โดยการใช้น้ำผงซักฟอกทั่วไปเช็ดทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง จัดให้มีอ่างล้างมือ น้ำและสบู่อย่างเพียงพอ ในบางวันควรเปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และแสงแดดส่องได้ทั่วถึง และ 6.ควรจัดทำแผนการประคองกิจการในสถานประกอบการและสถานที่ทำงาน เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง หากเกิดการระบาดใหญ่ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดในเว็บไซต์ของสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค http://beid.ddc.moph.go.th. ****30 มิ.ย. 2552


   
   


View 11    30/06/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ