พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการ การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายมารดาและทารก เพื่อแก้ไขปัญหาการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับแรกที่ทำให้ทารกไทยเสียชีวิต และมีผลต่อพัฒนาการและสติปัญญาของเด็ก ระบุต่อปีไทยมีเด็กคลอดก่อนกำหนด 64,000 คน ในจำนวนนี้อยู่ไอซียูปีละกว่า 11,000 ราย ใช้ค่ารักษาปีละกว่า 5,000 ล้านบาท
วันนี้ (1 กรกฎาคม 2552) เวลา 14.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการ การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายมารดาและทารกเพื่อการดูแลภาวะคลอดก่อนกำหนด ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม 1,000 คน เพื่อพัฒนาความรู้ในการดูแลหญิงตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด และการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนดให้รอดชีวิต มีพัฒนาการสมวัย โดยมีนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกฯ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการจัดงานฯ เฝ้ารับเสด็จ
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กราบทูลรายงาน ว่า การคลอดก่อนกำหนด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทารกแรกเกิดของไทยเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 หรือมีพัฒนาการล่าช้า และอาจเกิดปัญหาระดับเชาว์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ จากสถิติไทยมีหญิงตั้งครรภ์คลอดปีละประมาณ 800,000 คน ในจำนวนนี้คลอดก่อนกำหนดคือเมื่ออายุครรภ์ 2837 สัปดาห์ ร้อยละ 8-10 หรือ 64,000 80,000 คน ซึ่งเด็กเหล่านี้จะมีปัญหาการทำงานของปอด ตับ และระบบภูมิต้านทานยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ติดเชื้อง่าย การควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ดี และมีปัญหาการดูดนม ในแต่ละปีพบทารกคลอดก่อนกำหนดที่มีอาการหนักต้องอยู่ในไอซียู 11,000 กว่าราย ต้องได้รับการดูแลจากบุคลากรการแพทย์ที่มีความชำนาญ ใช้อุปกรณ์การแพทย์ราคาแพง และอยู่ในโรงพยาบาลเฉลี่ยรายละ 23 เดือน ใช้งบประมาณดูแลรักษาปีละไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
กลุ่มเสี่ยงภาวะคลอดก่อนกำหนด ได้แก่ สตรีตั้งครรภ์อายุน้อยกว่า 17 ปีหรือมากกว่า 35 ปี มีประวัติดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ใช้สารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์แฝด มีปัญหารกเกาะต่ำ มีความผิดปกติของมดลูก เช่น มีเนื้องอกที่มดลูก หรือปากมดลูกผิดปกติ รวมทั้งมีโรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
ในการแก้ไขปัญหาการคลอดก่อนกำหนด พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระดำริให้จัดทำโครงการเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวและเยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ เริ่มตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา โดยบูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สมาคมวิชาชีพแพทย์พยาบาล และสถานพยาบาลทุกระดับ ตั้งแต่ศูนย์บริการสาธารณสุข/สถานีอนามัย รพ.ชุมชน รพ.ทั่วไป รพ.ศูนย์ รพ.ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ ร่วมเป็นเครือข่ายพัฒนาคุณภาพบริการมารดาและทารกให้ได้มาตรฐานสากล และจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขเพื่อดูแลแนะนำสตรีตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยงในชุมชน รวมทั้งเฝ้าระวังและส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาล ขณะนี้ มีสถานบริการสาธารณสุขสังกัดกทม.ร่วมโครงการ 105 แห่ง และอบรม อสม.ไปแล้ว 500 คน
ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้ประทานพระดำรัสเปิดการประชุมวิชาการ ความว่า การคลอดก่อนกำหนดเป็นภาวะเรื้อรังที่คุกคามหญิงตั้งครรภ์ที่เกิดจากหลายสาเหตุ กว่าครึ่งสามารถป้องกันและแก้ไขได้ โดยการส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์ดูแลตนเองอย่างถูกต้อง จัดระบบการเฝ้าระวังที่ได้มาตรฐาน ตั้งแต่ระดับชุมชน จนถึงระดับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลที่มีการเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด และให้ทารกคลอดอย่างปลอดภัย มีพัฒนาการสมวัย และมีการสนับสนุนทางด้านวิชาการ องค์ความรู้ นโยบาย บุคลากร และงบประมาณจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
จากนั้น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้ประทานโล่เชิดชูเกียรติยศแก่ผู้ให้การสนับสนุนโครงการฯ จำนวน 11 ราย ประทานรางวัลและโล่เชิดชูเกียรติ แก่บุคลากรทางการแพทย์ดีเด่นและผู้ชนะการประกวดการปฏิบัติงานที่ให้ผลดีแก่ภาวะสุขภาพมารดาและทารกแรกเกิด จำนวน 10 ราย และประทานตู้อบทารกชนิดใช้ในการเคลื่อนย้ายจำนวน 1 เครื่อง แก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน ทรงรับฟังปาฐกถาเกียรติยศ โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์คลินิก สุวชัย อินทรประเสริฐ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย จากนั้นระหว่างทางเสด็จไปบริเวณลานนิทรรศการ ทรงปักธงเครือข่ายลงบนสัญลักษณ์จังหวัดที่ทรงมีพระประสงค์ให้ดำเนินงานเครือข่ายฯ ในปี 2553 2554 แล้วเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการ ภาคีเครือข่ายการดูแลสุขภาพมารดาและทารกเกิดก่อนกำหนด บุคลากรด้านการแพทย์ดีเด่น และผลงานชนะการประกวดการปฏิบัติงานที่ให้ผลดีแก่ภาวะสุขภาพมารดาและทารกแรกเกิด
************************************************ 1 กรกฎาคม 2552
View 18
01/07/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ