รัฐมนตรีว่าการฯและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหารระดับสูง ออกตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลในสังกัดในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ลดการเสียชีวิต เน้นบริการแบบวันสต็อบ เซอร์วิส ตรวจรักษา จ่ายยาเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อสู่คนอื่น ล่าสุดในวันนี้ได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบยืนยันติดเชื้อเพิ่มอีก 231 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552 ถึงวันนี้มีทั้งหมด 2,076 ราย อาการหายเป็นปกติ 2,036 ราย เสียชีวิตเท่าเดิม 7 ราย พร้อมทั้งเตือนผู้ที่ป่วยไข้หวัดใหญ่ ห้ามกินยาแอสไพริน เพราะอาจทำให้ตับวาย มีโอกาสเสียชีวิตได้ง่าย วันนี้( 5 กรกฎาคม 2552 ) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดร.นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายแพทย์ชูวิทย์ ลิขิตยิ่งวรา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี โรงพยาบาลตราด โรงพยาบาลระยองและโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อติดตามมาตรฐานการดำเนินงานดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพื่อลดการเสียชีวิตของผู้ป่วย รวมทั้งการป้องกันควบคุมการแพร่เชื้อ นายวิทยากล่าวว่า การพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้วางแนวทางการดูรักษาไว้ 2 ส่วน โดยในกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง ซึ่งจะพบเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่รายที่ไข้ไม่สูง ไม่มีอาการซึม และรับประทานอาหารได้ สามารถรักษาตามอาการด้วยตนเองที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล โดยในการใช้ยาลดไข้ ให้ใช้ยาพาราเซตามอล นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ ควรหยุดเรียน หยุดงาน จนกว่าจะหายเป็นปกติ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีคนใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น นายวิทยากล่าวต่อว่า หากอาการไม่ดีขึ้น ไข้ยังสูงติดต่อกัน 2-3 วัน มีอาการไอมาก หายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก มีอาการซึมลง ควรรีบพบแพทย์ ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศกว่า 800 แห่งทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ได้จัดช่องทางบริการพิเศษให้ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นการเฉพาะ เพื่อผู้ป่วยได้รับความสะดวก ได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว ไม่แพร่เชื้อสู่คนอื่น หากมีอาการรุนแรงหรืออยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงอาการรุนแรง แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล และดูแลอย่างดีที่สุด เพื่อป้องกันการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับ ได้จัดเตรียมห้องแยกไว้ดูแลเป็นการเฉพาะแล้ว และจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางไว้เป็นที่ปรึกษาแพทย์ทั่วประเทศทั้งรัฐและเอกชนตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ในวันนี้ได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบผลยืนยันติดเชื้อเพิ่มอีก 231 ราย โดยเป็นนักเรียน 205 ราย ที่เหลือ 26 รายติดเชื้อภายในประเทศ รวมจำนวนผู้ป่วยทั้งประเทศสะสมตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552 ถึงวันที่5 กรกฎาคม 2552 จำนวน 2,076 ราย เสียชีวิต 7 รายเท่าเดิม เป็นชาย 4 ราย หญิง 3 ราย หายป่วยอาการเป็นปกติแล้ว 2,036 ราย ที่เหลืออีก 33 ราย ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลนครปฐม โรงพยาบาลสมุทรสาคร และโรงพยาบาลราชบุรี เพื่อติดตามการดำเนินดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯเมื่อเช้าวันนี้ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งทั่วประเทศ จัดช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะ ดูแลทั้งโรคไข้หวัดทั่วไปและโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ฯ ไม่ให้ปะปนกับผู้ป่วยอื่นๆ เป็นบริการแบบเบ็ดเสร็จ ตรวจ รักษา จ่ายยาที่จุดเดียวหรือวัน สต็อบ เซอร์วิส ให้ใช้สถานที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อให้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯได้รับความสะดวก และไม่แพร่กระจายเชื้อให้ผู้ป่วยอื่นๆ เพราะโดยทั่วไปผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาล จะมีภูมิต้านทานต่ำอยู่แล้ว อาจเกิดการติดเชื้อได้ง่าย “ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะโรคนี้สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ โดยขอให้ดูแลตนเองตามที่กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ คือกินร้อน ช้อนกลางและล้างมือ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เมื่อมาถึงที่ทำงานหรือที่โรงเรียน ให้ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลล้างมือฆ่าเชื้อโรคในระหว่างการเดินทาง มือจะสัมผัสกับเชื้อโรคที่ติดอยู่กับสิ่งสาธารณะต่างๆที่มีผู้คนใช้รวมกันมากๆเช่นราวโหนรถเมล์ ที่จับประตูเป็นต้น” นายมานิตกล่าว นายมานิตกล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้ผู้ดูแลพื้นที่สาธารณะต่างๆ ดูแลทำความสะอาดเพิ่มขึ้น โดยเน้นทำความสะอาดบ่อยๆ ด้วยน้ำผสมผงซักฟอก สำหรับเด็กนักเรียน ในช่วงวันหยุดยาว 5 วันนี้ ขอให้ดูแลตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ฯ โดยไม่ไห้ไปร้านเกม งดไปโรงเรียนกวดวิชา หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมากๆ โดยขอให้อยู่บ้านอ่านหนังสือแทน ส่วนคนที่ป่วยให้ดูแลตนเองมากขึ้น ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการลดไข้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ที่มีไข้สูง ทำได้ 2 วิธี คือเช็ดตัวด้วยน้ำสะอาด น้ำธรรมดาทั่วๆไป โดยบิดผ้าให้เปียกหมาดๆ น้ำจะมีคุณสมบัติช่วยพาความร้อนระเหยออกจากร่างกาย วิธีการเช็ดให้เช็ดจากส่วนปลายอวัยวะเข้าหาหัวใจ เช่นปลายเท้า มือ เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนขับความร้อนออกจากร่างกายให้ดียิ่งขึ้นและวางผ้าตามซอกคอ รักแร้ ข้อพับ เพื่อถ่ายเทความร้อนออกมาจากผิวหนัง และใส่เสื้อผ้าบางๆ ส่วนยาลดไข้แนะนำให้ใช้พาราเซตามอล อาจจะกินทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่ควรกินยาแอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาตับอักเสบและตับล้มเหลวที่เรียกว่า เรย์ ซินโดรม (Reye’s syndrome) เป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ ****************************** 5 กรกฎาคม 2552


   
   


View 8    05/07/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ