โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้การจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรที่จะเริ่มใช้ กค. 2552 เป็นข้อสรุปร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จ่ายทั้งตามอายุการทำงานและตามภาระงาน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ดึงบุคลากรให้อยู่ในระบบนานขึ้น แก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากร โดยจะใช้ชั่วคราวแค่ 15 เดือน และจะปรับใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มบุคลากร ทั้งบริหาร บริการ และวิชาการ ให้มีผลใช้ทันในตุลาคมปีหน้า จากกรณี พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป กล่าวถึงการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปว่า เป็นการบริหารงานที่ไม่เป็นธรรม โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข โฆษกกระทรวง และยังมีนพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ซึ่งเป็นแพทย์โรงพยาบาลชุมชน และประธานชมรมแพทย์ชนทบ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง เป็นตัวแทนในการเจรจา โดยค่าตอบแทนนี้จะให้เฉพาะโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ส่วนโรงพยาบาลสังกัดกรมอื่นๆ ต้องไปเรียกร้องเอาเอง พร้อมระบุว่าไม่พยายามแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรนั้น ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เจรจากับตัวแทนสหวิชาชีพจากโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา คือตนและนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ส่วนแพทย์ชนบททั้ง 2 ท่านนั้น เป็นเพียงผู้เข้าร่วมประชุมกับหัวหน้าพยาบาล/รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป และผู้แทนพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนการเจรจาของกระทรวงสาธารณสุขแต่อย่างใด ผลการประชุมได้ข้อสรุป และปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้เห็นชอบในหลักการแล้ว โดยจะประกาศหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนสำหรับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2552 เป็นต้นไป หลักเกณฑ์ในการจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าว พิจารณาจ่ายให้ 2 ส่วน ได้แก่ จ่ายตามอายุการปฏิบัติงาน และจ่ายตามภาระงาน การจ่ายตามอายุการปฏิบัติงาน ได้แก่ แพทย์/ทันตแพทย์ทำงานปีที่ 1 – 3 เดือนละ 10,000 บาท ปีที่ 4 ขึ้นไป 15,000 บาท เภสัชกรปีที่ 1 – 3 เดือนละ 3,000 บาท ปีที่ 4 ขึ้นไป 4,500 บาท พยาบาลวิชาชีพและสาขาอื่น ๆ ระดับปริญญาตรี รับเท่ากันคือปีที่ 1 – 3 เดือนละ 1,200 บาท ปีที่ 4 ขึ้นไป 1,800 บาท ส่วนบุคลากรต่ำกว่าปริญญาตรีปีที่ 1-3 เดือนละ 600 บาท ปีที่ 4 ขึ้นไป 900 บาท ส่วนการจ่ายตามภาระงาน จะพิจารณาที่ความยุ่งยากซับซ้อนแตกต่างกัน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเร่งพิจารณาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และมีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2552 เช่นกัน ทั้งนี้ ในส่วนของโรงพยาบาลสังกัดกรมวิชาการต่าง ๆ ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นนิติบุคคล สามารถนำหลักเกณฑ์ตามประกาศดังกล่าวนี้ไปใช้เป็นแนวทางจัดทำหลักเกณฑ์ของหน่วยงานได้ ตามระเบียบเงินบำรุงของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งอธิบดีเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า อัตราค่าตอบแทนดังกล่าวนี้ จะใช้ชั่วคราวเพียง 15 เดือนจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 หลังจากนั้นกระทรวงสาธารณสุขจะใช้แนวทางใหม่ ซึ่งจะจ่ายค่าตอบแทนครอบคลุมบุคลากรทุกคน ทั้งกลุ่มบริการ กลุ่มบริหาร และกลุ่มวิชาการ ที่ทำงานในส่วนกลาง ศูนย์วิชาการต่างๆ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และสถานีอนามัย โดยจะยึดตามภาระงาน ความขาดแคลนบุคลากร ความยุ่งยากของงาน พื้นที่ในการทำงาน เป็นหลักในการพิจารณา เพื่อรักษาความสามัคคีในการทำงานร่วมกันของทีมสุขภาพในโรงพยาบาล และเป็นธรรมที่สุด ************************************* 10 กรกฎาคม 2552


   
   


View 11    10/07/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ