รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผอ.โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมรักษาผู้ป่วย ให้สถานพยาบาลในสังกัดทุกแห่งจัดช่องทางพิเศษตรวจผู้ป่วยไข้หวัดเป็นการเฉพาะ และเพิ่มอัตรากำลังแพทย์/พยาบาลตรวจรักษานอกเวลาราชการ ยืนยันมาตรฐานรักษาของไทยไม่ด้อยกว่าประเทศอื่น
เช้าวันนี้ (10 กรกฎาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ เพื่อทบทวนแนวทางการดำเนินงานควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 และความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล
นายวิทยา กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ประชาชนทุกคนมีความเสี่ยงที่จะป่วยเท่ากัน เนื่องจากคนทั่วโลกยังไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้ และยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ในกลุ่มที่ร่างกายอ่อนแอ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเมื่อเจ็บป่วยมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้มาก ซึ่งสถานการณ์ของโรคมีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและกระจายไปทั่วประเทศ ขณะเดียวกันช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั่วไปด้วย ทำให้มีโอกาสพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก จึงต้องเตรียมสถานพยาบาลทุกระดับทั่วประเทศ ให้พร้อมรักษาพยาบาลผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดอัตราเสียชีวิตให้มากที่สุด
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้มอบนโยบายให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศ จัดช่องทางพิเศษสำหรับตรวจรักษาผู้ที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดโดยเฉพาะ และเพิ่มอัตรากำลังแพทย์ พยาบาล ให้บริการตรวจรักษานอกเวลาราชการ รวมทั้งจัดระบบส่งต่อผู้ป่วยประสานงานกันเป็นเครือข่าย ระหว่างโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ภายในจังหวัด ไปจนถึงระดับเขต ระดับภาค และส่วนกลาง โดยมีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคณะกรรมการคอยให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแนวทางการรักษาผู้ป่วยของไทยที่ทำอยู่ขณะนี้ คณะแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานวิชาการต่างๆ อาทิ ศิริราช รามาธิบดี จุฬาลงกรณ์ รวมทั้งของกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกันวิเคราะห์และปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของโรค จึงขอยืนยันให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่า มาตรฐานการรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ของไทย ไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่นแน่นอน
ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค พบว่าจุดที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ จะยิ่งมีความเสี่ยงการแพร่เชื้อได้มาก เช่น โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา ร้านเกม ไนต์คลับ ผับ บาร์ เป็นต้น ได้ขอให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ประสานกับผู้บริหารสถานที่ต่างๆ เหล่านี้ เพื่อขอความร่วมมือให้มีการทำความสะอาดสถานที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงแพร่เชื้อเป็นประจำ จัดระบบถ่ายเทอากาศ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปร่วมกับทางโรงเรียน คัดกรองนักเรียนที่มีอาการป่วยเหมือนไข้หวัดด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ มีความรัดกุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบงานในแต่ละภาค ได้แก่ ภาคเหนือ มอบแพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ ภาคใต้ มอบนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ภาคกลาง มอบนายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มอบนายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์
สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ของไทย ตั้งแต่ 28 เมษายน 2552-10 กรกฎาคม 2552 สำนักระบาดวิทยารายงานมีผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 3,071 ราย เสียชีวิต 14 ราย เป็นหญิง 6 ราย ชาย 8 ราย อายุระหว่าง 8-58 ปี อยู่ในกทม. 7 ราย ชลบุรี 3 ราย ภูเก็ต 1 ราย มหาสารคาม 1 ราย ราชบุรี 1 ราย และเพชรบุรี 1 ราย
กรกฎาคม 2/7-8************************************10 กรกฎาคม 2552
View 13
10/07/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ