กระทรวงสาธารณสุข เร่งตรวจสอบข้อมูลผู้มีโรคประจำตัว ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ซึ่งมีประมาณ 2.4 ล้านคน ให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อจัดลำดับความจำเป็นที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ พร้อมทั้งเปิดสายด่วนหมายเลข 1422 อีก 10 คู่สาย บริการตลอด 24 ชั่วโมง นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ของไทย ว่า ตั้งแต่ 28 เมษายน 2552-13 กรกฎาคม 2552 มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 3,883 ราย เสียชีวิต 21 ราย เฉพาะวันนี้ได้รับรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันผู้ป่วยรายใหม่ 328 ราย มีผู้ป่วยอาการหนักต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด 10 ราย โดยผู้เสียชีวิตที่ได้รับรายงานวันนี้ 3 ราย ล้วนเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ดังนี้ รายที่ 19 เป็นชาย อายุ 13 ปี น้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกทม. เมื่อ 29 มิถุนายน 2552 แพทย์ให้ยาและให้สังเกตอาการที่บ้าน ต่อมาวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 อาการหนักขึ้น ตรวจพบมีปอดอักเสบรุนแรง และเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2552 ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ กระทรวงสาธารณสุขได้รับรายงานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2552 รายที่ 20 เป็นหญิงอายุ 53 ปี อยู่กทม. เริ่มป่วยมีไข้ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ไปรับการรักษาที่คลินิก ต่อมาไข้สูง หายใจหอบ ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน แพทย์ตรวจพบปอดอักเสบรุนแรงทั้ง 2 ข้าง รับไว้รักษาในโรงพยาบาล และเสียชีวิตในวันที่ 12 กรกฎาคม 2552 ผู้เสียชีวิตรายนี้มีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูงมาหลายปี รายที่ 21 เป็นหญิง อายุ 46 ปี อยู่จังหวัดสกลนคร มีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานมา 6 ปี เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2552 แต่ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมชนด้วยอาการไข้สูง ไอ หายใจติดขับ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 เอ็กซ์เรย์พบปอดบวม ส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์วันที่ 11 กรกฎาคม 2552 ต่อมาอาการทรุดลง เสียชีวิตวันที่ 12 กรกฎาคม 2552 นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งรัดจัดทำข้อมูลรายชื่อผู้มีโรคประจำตัว 2.4 ล้านคน ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรง หากป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ก่อน โดยมอบให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 19 เขต รวบรวมจากสถานพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบ และตรวจสอบกับฐานข้อมูลของสปสช. ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีโรคประจำตัวกลุ่มนี้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง โดยให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำที่ถูกต้องแก่ผู้ที่มีโรคประจำตัว และให้ทันเวลาที่การทดสอบวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เสร็จสิ้น พร้อมฉีดให้กับกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องได้รับวัคซีนต่อไป เนื่องจากขณะนี้มีประชาชนสอบถามข้อมูลโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ทางหมายเลข 0-2590-1994 และ 0-2590-3333 วันละกว่า 500 ส่วนใหญ่ถามเรื่องอาการ วิธีป้องกัน การรักษาพยาบาล และวัคซีน แสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความสนใจและต้องการข้อมูลที่หลากหลาย กระทรวงสาธารณสุขจึงเปิดสายด่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เพิ่มอีก 10 คู่สายทางหมายเลข 1422 และให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ จัดบริการสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์แก่ประชาชนในพื้นที่ร่วมด้วย **************************************13 กรกฎาคม 2552


   
   


View 7       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ