กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับสถานีอนามัย ให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ให้ได้ 9,000 แห่งภายในปี 2562 เพื่อเร่งดำเนินมาตรการเชิงรุกเข้าหาประชาชน ลดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเจ็บป่วยคู่ไปกับปรับปรุงระบบการบริการ เผยขณะนี้คนไทยป่วยและเข้ารักษาตัวจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังปีละกว่า 2 ล้านคน
วันนี้(15 กรกฎาคม 2552)นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพนียดและโครงการมหกรรมสุขภาพ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐมว่า ปัจจุบันโรคไม่ติดติดเรื้อรัง กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยในวัยทำงานและวัยสูงอายุ ที่พบมากเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมอง และปอดอุดตันเรื้อรัง โดยมีคนไทยเจ็บป่วยจากโรคดังกล่าวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศปีละกว่า 2 ล้านคน ส่งผลกระทบไปถึงครอบครัว ชุมชน เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยโรคดังกล่าวใช้เงินรักษาแต่ละโรคตั้งแต่ 10,000 100,000 บาทต่อคนต่อปี นอกจากนี้ตลอดปี 2550 พบว่าคนไทยเจ็บป่วยเข้ารับบริการในสถานพยาบาลทุกระดับจำนวน เกือบ 36 ล้านคน ป่วยโดยเฉลี่ยคนละ 2.75 ครั้งต่อปี ต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลมากถึง 116 ล้านครั้ง
ในการลดปัญหาการเจ็บป่วยของประชาชนให้น้อยลง กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ โดยยกระดับสถานีอนามัย ที่มีอยู่ทุกตำบลทั่วประเทศอยู่แล้ว 9,810 แห่ง ให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลจำนวน 9,000 แห่ง ดำเนินการระหว่างพ.ศ. 2552-2562 มีบริการเช่นเดียวกับโรงพยาบาลชุมชน แต่จะเน้นหนักเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและการลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เจ็บป่วยทั้งจากโรคเรื้อรังและโรคติดเชื้ออื่นๆ ประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวกและอยู่ใกล้ๆบ้าน โดยในปี 2552 นี้ มีเป้าหมาย 1,000 แห่ง จะให้เปิดบริการอย่างน้อยละอำเภอละ 1 แห่ง ในปี 2553 ดำเนินการอีก 1,000 แห่ง ส่วนสถานีอนามัยที่เหลือจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในพ.ศ. 2562
นายมานิตกล่าวต่อว่า การดำเนินการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลครั้งนี้ จะทำเป็นเครือข่ายกับโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาพยาบาล หากมีผู้ป่วยเจ็บป่วยรุนแรง จำเป็นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล จะมีการปรึกษาแพทย์และส่งต่อรักษาโดยมีรถพยาบาลที่ได้มาตรฐานนำส่ง และยังมีระบบการติดตามผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ภายหลังที่แพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาพักฟื้นที่บ้าน เพื่อการดูแลอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี ซึ่งจะสามารถลดปัญหาแทรกซ้อนและป้องกันไม่ให้โรคกำเริบรุนแรงได้ มั่นใจว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย ไม่ต้องเดินทางไปรับบริการที่โรงพยาบาลได้เป็นอันมาก
ด้านนายแพทย์คงเดช ลีโทชวลิต นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกันรักษาการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดนครปฐมได้พัฒนาสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพจำนวน 8 แห่ง ซึ่งได้พัฒนาสถานีอนามัยตำบลห้วยตะโกเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพะเนียดเป็นแห่งแรก โดยมีทีมแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ออกหมุนเวียนตรวจรักษา มีระบบการสื่อสารกับโรงพยาบาลแม่ข่ายให้คำปรึกษาทางไกล มีรถออกเยี่ยมบ้าน การให้บริการครอบคลุมทั้งการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาล รวมทั้งระบบการส่งต่อกรณีเกินขีดความสามารถ ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ที่สำคัญยังได้ให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการจัดบริการสุขภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน โดยชุมชนเป็นเจ้าของอย่างแท้จริงด้วย
*************************** 15 กรกฎาคม 2552
View 13
15/07/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ