กระทรวงสาธารณสุข คาดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ไทยผลิตเอง ล็อตแรกจะดำเนินการทดลองตามหลักวิชาการในต้นเดือนสิงหาคม 2552 นี้ ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการวิจัยทดลอง 3 ชุด แจงงบ 600 ล้านบาทเป็นงบซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากต่างประเทศ ไม่ใช่งบลงทุนผลิตวัคซีน และในวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2552 จะแจกคู่มือไข้หวัดใหญ่ฉบับพกพาให้ประชาชนอีก 4 ล้านเล่มแจกทุกจังหวัด และวางที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ศาลากลางจังหวัด โรงพยาบาล สถานีอนามัย
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการะทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล นายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เพื่อติดตามมาตรการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอเอช1 เอ็น 1 เมื่อเช้าวันนี้ ( 19 กรกฎาคม 2552 )ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่าการประชุมในครั้งนี้ ได้ติดตามมาตรการความคืบหน้าการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ใน 4 ประเด็น ได้แก่วัคซีน ประสิทธิภาพการรักษาพยาบาล ในรายที่มีอาการรุนแรง และในรายที่มีความเสี่ยงอาการรุนแรง เพื่อให้ได้รับยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์เร็วที่สุด โดยไม่ต้องรอผลแล็ป การจัดทำคู่มือประชาชนในการป้องกันโรค รวมทั้งการติดตามข้อเสนอแนะต่างๆที่ประชาชนและหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เสนอแนะ หรือให้คำแนะต่อกระทรวงสาธารณสุข
ในส่วนประสิทธิภาพการรักษาพยาบาลประชาชนที่ป่วย ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้กระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ไปให้โรงพยาบาลต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนทุกจังหวัด ลงไปถึงระดับโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งอย่างเพียงพอ ขณะนี้มียาสำรองในระบบแล้ว 14 ล้านเม็ด และหลังจากปรับมาตรการรักษาแล้ว ได้ให้องค์การเภสัชกรรมสั่งวัตถุดิบเพื่อผลิตยาดังกล่าวอีก 10 ล้านเม็ดในสัปดาห์หน้า รวมแล้วมียาสำรองในระบบทั้งสิ้น 24 ล้านเม็ด วัตถุดิบจะมาถึงไทยวันพุธหน้า และใช้เวลาบรรจุ 3-5 วัน ก็จะจัดส่งไปยังสถานพยาบาลต่างๆได้ ยามีเพียงพอ ขอให้ประชาชนมั่นใจได้
นายแพทย์จักรธรรม ธรรมศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อกระทรวงสาธารณสุข โดยมาตรการควบคุมแก้ไขที่กระทรวงฯได้ดำเนินการที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้ยึดตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติในการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ ที่ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำตั้งแต่พ.ศ.2549 และองค์การอนามัยโลกแนะนำ ซึ่งได้ปรับตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโรคตลอดเวลา
นายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ว่า การผลิตวัคซีนดังกล่าว เป็นการคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชนไทยและความมั่นคงของประเทศไทยในการป้องกันโรคติดต่อ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะกรรมการดูแลประสิทธิภาพความปลอดภัยของวัคซีนอย่างรัดกุมที่สุดตามหลักวิชาการและมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก มี 3 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการทดลองในคน คณะอนุกรรมการขึ้นทะเบียนวัคซีน และคณะอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตวัคซีน ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญองค์การเภสัชกรรม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าวัคซีนต้นแบบล็อตแรก จะออกมาช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2552 จากนั้นก็จะทดลองประสิทธิภาพในความปลอดภัยในสัตว์ทดลอง และทดลองในคนต่อไปตามขั้นตอนของหลักสากล หากไม่ได้ผลหรือไม่มีความมั่นใจ จะไม่มีการนำมาใช้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ประเด็นการใช้เงิน 600 ล้านบาท ที่หลายฝ่ายเข้าใจว่าเป็นการลงทุนผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ยืนยันว่าเงินดังกล่าว เป็นเงินที่สั่งจองซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯจำนวน 2 ล้านโดส ที่ผลิตในต่างประเทศ จากบริษัทซาโนฟี่ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก โดยวัคซีนดังกล่าวจะส่งถึงไทยในเดือนธันวาคม 2552 นี้
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข รายงานจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตตรงไปตรงมา ไม่เคยปกปิดข้อมูลใดๆทั้งสิ้น และยึดตามแนวทางขององค์การอนามัยโลกในฐานะประเทศสมาชิก ส่วนการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการนั้น ขณะนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถตรวจได้ทุกแห่งและเพียงพอแล้ว โดยในการตรวจนั้นจะใช้ประโยชน์ใน 2 เรื่องที่มีความสำคัญคือตรวจในรายผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเพื่อให้รู้แน่นอน เป็นประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาล และตรวจเพื่อติดตามเฝ้าระวังและกำกับสถานการณ์การควบคุมป้องกันโรคในพื้นที่
แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ในส่วนมาตรการชะลอการแพร่เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้น ได้มีหนังสือสั่งการกำชับให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดดำเนินการตรวจคัดกรองเด็กที่ป่วยในโรงเรียนทุกแห่งทั้งรัฐเอกชนและติดตามต่อเนื่องทุกวัน เป็นมาตรการเหมือนกันทั่วประเทศ หากพบเด็กป่วย ให้หยุดเรียนและอยู่ที่บ้านจริงๆ แทนการปิดโรงเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองดูแล จนกว่าจะหายป่วย ซึ่งวิธีนี้นับว่าดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด รวมทั้งกิจกรรมรณรงค์ทำความสะอาดโรงเรียน สถานบันเทิง โรงงาน การสำรวจความเพียงพอของอ่างล้างมือของโรงเรียน และให้ส่งรายงานผลการปฏิบัติให้ศูนย์อำนวยการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขทุกวัน
ขณะเดี่ยวกันกระทรวงสาธารณสุขได้แจกปรอทวัดไข้ให้ อสม.ทั่วประเทศ ทำการคัดกรองผู้ที่มีไข้ในหมู่บ้าน เพื่อส่งตัวเข้าดูแลต่อที่สถานพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วและถูกต้อง และมอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดพิมพ์คู่มือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฉบับประชาชน แบบพกพาได้ จำนวน 4 ล้านฉบับ โดยจะเริ่มจัดส่งไปกทม. ในวันจันทร์ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศในวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2552 นี้ เพื่อให้อสม.นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนต่อไป และอาจแจกที่ร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น ด้วย วางที่ศาลากลางจังหวัด โรงพยาบาล สถานีอนามัยทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลตนเองมากยิ่งขึ้น
************************************ 19 กรกฎาคม 2552
View 12
19/07/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ