โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้คนทั่วโลก รวมทั้งไทย เสี่ยงติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เท่ากัน เพราะส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิต้านทานโรค คนที่ยังปกติขณะนี้ควรเลี่ยงรับเชื้อจากคนป่วย ส่วนผู้ที่ได้รับยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ต้องกินให้ครบ 10 เม็ด ตามเวลา 5 วัน อย่าหยุดยากลางคัน เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งในไทยเริ่มตรวจพบเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ว่า ปัญหาการดื้อยาต้านไวรัสมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากมีการใช้ยากับคนเป็นจำนวนมากโอกาสเกิดการดื้อยาก็จะมีมากขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีความระมัดระวังในการใช้ยา โดยกำหนดให้ใช้ยานี้ในผู้ป่วยหนักและผู้ที่เสี่ยงมีอาการป่วยรุนแรง ซึ่งจะให้ผลการรักษาดีที่สุดใน 48 ชั่วโมง หรือ 72 ชั่วโมงแรกที่เริ่มป่วย จึงย้ำเตือนให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่กำลังกินยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์อยู่ในขณะนี้ หากหลังกินแล้วอาการดีขึ้นก็อย่าหยุดกินยากลางคัน ขอให้กินจนครบตามแพทย์สั่ง คือวันละ 2 เม็ด ครั้งละ 1 เม็ดเช้าและเย็น จนครบ 5 วัน รวม 10 เม็ด ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา และแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถใช้ยาตัวเดิมได้ ดังนั้นผู้ป่วยที่ได้รับยาจะต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า ขณะนี้ทั่วโลกรวมทั้งคนไทยมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯเท่ากัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิต้านทานเชื้อนี้มาก่อน ในส่วนของไทยคาดว่าจะมีผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคนี้แล้วประมาณ 3 - 5 แสนคน ดังนั้น คนที่ยังไม่ป่วยขอให้ป้องกันตนเองไม่ให้รับเชื้อ โดยสามารถติดเชื้อจากผู้ป่วย 4 กรณีใหญ่ๆ ได้แก่ 1.การอยู่ใกล้กับผู้ป่วยในระยะ 1 – 2 เมตร เช่น หันหน้าคุยกัน หรือถูกผู้ป่วยไอ จามรด โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ใส่หน้ากากอนามัย 2. การใช้ของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า เช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ หรือกินอาหารจากภาชนะเดียวกันโดยไม่ใช้ช้อนกลาง 3. ใช้มือสัมผัสสิ่งของที่อาจมีน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยติดอยู่แล้วเอามือขยี้จมูก ปาก หรือตาตนเอง 4. อยู่ในสถานที่ปิดอับทึบ อากาศถ่ายเทไม่ดี และมีผู้ป่วยปะปนอยู่เช่นสถานบันเทิง อาจมีโอกาสรับเชื้อโดยสูดหายใจเอาเชื้อโรคเข้าไป เพราะเชื้อโรคที่ผู้ป่วยไอหรือจามออกมาจะถูกสะสมไว้มากและมีความเข้มข้นสูง ซึ่งเชื้อโรคมีชีวิตอยู่ได้ 4 – 6 ชั่วโมง มีโอกาสที่จะแพร่กระจายอยู่ในอากาศได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ดังกล่าว สำหรับตามบ้านเรือนต่าง ๆ หากมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ขอให้หยุดงาน หยุดเรียนให้ครบ 7 วันตั้งแต่วันที่เริ่มป่วย และป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู่คนในบ้าน โดยแยกผู้ป่วยให้พักผ่อนเต็มที่อยู่ในห้องส่วนตัว ให้ล้างมือบ่อย ๆ แยกของใช้ส่วนตัว กินข้าวแยกต่างหาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา อยู่ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร และเวลานอนให้อยู่ด้านใต้ลม ส่วนเด็ก คนแก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือหญิงตั้งครรภ์ให้อยู่ห่างจากผู้ป่วย และหมั่นล้างมือ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามสายด่วนไข้หวัดใหญ่ 1422 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ************************************ 9 สิงหาคม 2552


   
   


View 10       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ