รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการไทยเข้มแข็ง 2 ชุด มีความคืบหน้า และเร่งคลายคำตอบสังคม 2 เรื่องคือ “ราคาแพงเกินจริง และรายการที่พื้นที่ไม่ต้องการ แต่ได้รับจัดสรรให้” ชี้หากผลสรุปสามารถประหยัดงบได้จริง ก็จะนำไปใช้เติมเต็มสถานบริการที่ยังขาดแคลนได้ พร้อมกำชับปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้เร่งตรวจสอบ จับให้ทัน อย่าให้มีการโกงเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด เช้าวันนี้ (8 ตุลาคม 2552) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการชุดทบทวนโครงการไทยเข้มแข็งและชุดตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ที่มีนายแพทย์เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงาน นายวิทยา กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะชุดของนายแพทย์เสรี หงส์หยก ที่ทบทวนรายการครุภัณฑ์ที่มีปัญหา 6 ราย การได้แก่ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยระบบอัลตร้าไวโอเล็ต เครื่องตรวจสารเคมีในเลือด เครื่องช่วยหายใจ เครื่องดมยาสลบ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจรถพยาบาล และสิ่งก่อสร้าง 1 รายการคือแฟลตพยาบาล ส่วนชุดที่ 2 คือชุดพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข็มแข็ง ซึ่งได้มอบหมายให้นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่แทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ก็มีความคืบหน้าเช่นกัน แต่เนื่องจากมีรายการจำนวนมากถึง 7,000 กว่ารายการ จึงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ อาจขยายเวลาได้อีกหากจำเป็น และหากพบรายการที่มีราคาแพงเกินจริง ให้ส่งให้ชุดนายแพทย์เสรี หงส์หยก ดำเนินการต่อ นายวิทยากล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการทั้ง 2 ชุด เร่งดำเนินการให้คำตอบสังคมเร่งด่วน 2 เรื่อง เรื่องแรกได้แก่รายการที่พื้นที่ไม่ต้องการ แต่ปรากฏในโครงการ และเรื่องที่ 2 คือการตั้งราคาแพงเกินจริง ซึ่งหากตรวจสอบได้ว่าแพงจริง สามารถปรับราคาลงตามความเป็นจริง และประหยัดงบประมาณได้ ก็จะหารือกับนายกรัฐมนตรีและครม. เพื่อนำเงินที่เหลือนี้ไปพัฒนาปรับปรุงสถานพยาบาลส่วนที่ยังขาดแคลนอยู่และรอการพัฒนา ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขติดตามเรื่องราวการทุจริตทุกเรื่องที่ปรากฎในสื่อ เพื่อหาข้อเท็จจริงและชี้แจงสังคมโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น เช่นกรณีการสร้างอาคารที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และให้มีการแถลงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการไทยเข็มแข็งทุกสัปดาห์ ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการตรวจสอบรายการคุรุภัณฑ์ ราคาและสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งความเหมาะสมการจัดสรรให้พื้นที่ในโครงการไทยเข็มแข้ง ได้ใช้กลไก 2 ส่วน ส่วนแรกคือการตั้งคณะกรรมการที่มีบุคคลจากพื้นที่ คือนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตัวแทนจากโรงพยาบาลทุกระดับ รวมทั้งแพทย์ชนบทที่เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลชุมชน เข้ามาช่วยดูแลรายละเอียดทั้งหมด ส่วนที่ 2 ได้ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขต ทบทวนทั้งรายการครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้าง และราคา ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้จะรายงานในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2552 สำหรับกรณีการก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา งบประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ได้มีการประกวดราคา และมีข่าวว่าล็อคสเปคก่อสร้าง ทำให้มีบริษัทผ่านเกณฑ์ได้น้อย นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตึกที่โรงพยาบาลต้องการสร้างขึ้น มีชั้นใต้ดิน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ระบุคุณสมบัติของผู้ก่อสร้างว่าต้องเคยมีผลงานการก่อสร้างอาคารที่ไม่มีน้ำรั่วซึมชั้นใต้ดิน เป็นความปรารถนาดีของโรงพยาบาลที่ต้องการตึกที่มีคุณภาพดี ใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า โดยเมื่อเช้าวันนี้ได้สั่งให้ยกเลิกการประกวดราคา และให้ผู้บริหารโรงพยาบาลแถลงข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชนแล้ว อนึ่งในเวลา 11.00 น.วันนี้ ตัวแทนโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจและยืนยันจะอยู่ข้างรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข ที่จะทำให้กระทรวงสาธารณสุขโปร่งใส และกล่าวว่าตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาทำงาน ได้ทำประโยชน์กับกระทรวงฯ และนายกแพทยสภาได้ขอบคุณที่ทำงานให้บุคลากรทางการแพทย์ด้วย ด้านนายแพทย์เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประธานชุดทบทวนรายการครุภัณฑ์ที่มีปัญหา 6 รายการ กล่าวว่าผลการตรวจสอบเบื้องต้นรายการที่เป็นข่าว เช่นเครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัตราไวโอเล็ต เครื่องวัดสารเคมีในเลือด มีบางรายการที่ไม่ได้ขอแต่ได้รับ และราคาที่แพง รวมทั้งขนาดของเครื่องมือที่ได้ไม่เหมาะสมกับการใช้งานของโรงพยาบาล เช่น เครื่องวัดสารเคมีในเลือด โรงพยาบาลเล็กควรได้เครื่องเล็ก ส่วนเครื่องดมยาสลบและเครื่องช่วยหายใจ จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลการใช้งาน แต่จะต้องตรวจรายละเอียดเพิ่มเติมอีก สำหรับราคาการสร้างหอพักพยาบาลขนาด 24 ยูนิต เป็นการตั้งราคาในปี 2553 จะต้องนำไปเปรียบเทียบกับราคากลางซึ่งเป็นราคาอ้างอิงสิ่งก่อสร้างอีกครั้ง หากดูรายละเอียดแล้ว ก็อาจจะประหยัดงบได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการจัดจ้างรวมทั้งการตรวจสอบ เป็นกระบวนการของพื้นที่ต้องดำเนินการในจังหวัด นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ดำเนินการครั้งนี้ นับว่าเป็นการวางระบบการตรวจสอบที่เข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข สามารถนำไปใช้ในโครงการอื่น ๆ ได้ในอนาคต ***************************************** 8 ตุลาคม 2552


   
   


View 13    08/10/2552   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ