ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำชับทุกโรงพยาบาลตรวจสอบเข้มงวดวันผลิต วันหมดอายุ ของยาและอาหารก่อนนำมาให้ผู้ป่วยและญาติ ด้านผอ.รพ.พุทธชินราชสั่งปรับปรุงระบบรับบริจาคนม และการจัดเก็บให้เข้าสู่ระบบ อย่างเข้มงวด โดยวันนี้ ได้รับตัวแฝดทั้ง 3 คน มาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแล้ว ผลปกติดี
จากกรณีที่นางเกษรา ลิ้นทอง คลอดบุตรแฝด 3 ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 แล้วเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ หลังคลอด ทำให้เด็กแฝดทั้ง 3 ต้องกำพร้าแม่ ทั้งนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เรียกร้องให้โรงพยาบาลดังกล่าวรับผิดชอบ ซึ่งตามข่าวโรงพยาบาลได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาทและนมผง 18 กระป๋อง แต่เมื่อให้เด็กรับประทานนมแล้วเกิดท้องเสีย เนื่องจากนมหมดอายุ
จากกรณีดังกล่าว นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า นายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมทั้งได้ให้ทีมแพทย์ลงไปพบญาติและทารกทั้ง 3 เพื่อตรวจร่างกายรวมทั้งให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น นอกจากนี้ยังได้กำชับไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบวันเดือนปีในการผลิต วันหมดอายุของยาและอาหารอย่างเข้มงวดก่อนที่จะนำมาใช้ทั้งในโรงพยาบาลตลอดจนให้ผู้ป่วยหรือญาตินำกลับบ้าน
ด้านนายแพทย์ประเสริฐ ขันเงิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากที่นางเกษรา ลิ้นทอง เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจหลังคลอดบุตรแฝด 3 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 โรงพยาบาลพุทธชินราชได้ดูแลทารกที่คลอดมาเป็นอย่างดี เนื่องจากทารกที่คลอดออกมาทั้ง 3 คนนั้นมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 1,500 กรัม จึงจำเป็นต้องอยู่ในตู้อบจนกว่าน้ำหนักตัวจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ คือ 2,500 กรัม และเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2552 ทารกทั้ง 3 ได้กลับบ้าน โดยทางโรงพยาบาลได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 และนมผงจำนวน 18 กระป๋อง ซึ่งทางโรงพยาบาลจะสนับสนุนนมกระป๋องจนกว่าเด็กทั้ง 3 คน จะสามารถรับประทานอาหารอย่างอื่นทดแทนได้
นายแพทย์ประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากโรงพยาบาลพุทธชินราชเป็นโรงพยาบาลสายใยรัก จึงไม่มีนโยบายในการแจกนมผงให้กับผู้ที่มาคลอดที่โรงพยาบาล ยกเว้น 3 กรณี ได้แก่ แม่เสียชีวิต แม่ติดเชื้อเอชไอวี และเด็กที่มาป่วยที่โรงพยาบาลซึ่งแม่ไม่สามารถมาให้นมบุตรได้ นอกจากนี้นมที่นำมาให้ให้นั้น เป็นนมที่ได้รับบริจาคมา จึงไม่ได้อยู่ในระบบการจัดเก็บและตรวจสอบเนื่องจากจะขัดต่อนโยบายของโรงพยาบาล ซึ่งในวันนี้โรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ไปรับตัวเด็กแฝดทั้ง 3 ที่อยู่เลขที่ 31 หมู่ 6 บ้านบ่อโพธิ์ ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย มาโรงพยาบาล ให้กุมารแพทย์ตรวจร่างกายแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาใดๆ และได้ให้นมผงไปกินต่อที่บ้าน
ทั้งนี้หลังจากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ทางโรงพยาบาลพุทธชินราช จะทำการปรับปรุงระบบการรับบริจาคนมและการจัดเก็บให้เข้าสู่ระบบ ตลอดจนการตรวจสอบวันเดือนปีผลิต วันหมดอายุ อย่างเข้มงวด ก่อนที่จะนำออกมาใช้หรือให้แก่เด็กต่อไป พร้อมกันนี้ขอยืนยันว่าระบบการจัดเก็บและตรวจสอบยาของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างเข้มงวด นายแพทย์ประเสริฐ กล่าว
.......................................... 13 ตุลาคม 2552
View 13
13/10/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ