รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมรณรงค์กระเช้าของขวัญปลอดเหล้า ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเทศกาลปีใหม่ และเตรียมประชุมชี้แจงห้างสรรพสินค้าทุกแห่งปฏิบัติตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 หากฝ่าฝืนจัดกระเช้ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ 2553 ซึ่งแต่ละปีจะมีการจัดงานนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ มีลานเบียร์ และมอบกระเช้าเป็นของขวัญ บางแห่งมีการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใส่กระเช้าของขวัญด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรนำมาเป็นของขวัญให้ผู้ใด ควรจะมอบของขวัญที่เป็นการบำรุงสุขภาพทั้งกายและใจ เพื่อแสดงความปรารถนาดีต่อบุคคลอย่างแท้จริงมากกว่า เพราะหากมอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญ เท่ากับว่าส่งมอบสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนที่เรารักหรือนับถือ
นายมานิตกล่าวต่อว่า ในปีนี้ได้มอบนโยบายให้มีการรณรงค์ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่เนิ่นๆ และรณรงค์อย่างต่อเนื่องจนถึงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะการจำหน่ายกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วย หรือกระเช้าที่มีเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับแรกที่ประกาศใช้ในพ.ศ. 2551 มีเจตนารมณ์เพื่อลดนักดื่มหน้าใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนไทย และกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่บริหารจัดการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายดังกล่าว โดยได้ให้สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เตรียมเชิญประชุมชี้แจงห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง เรื่องการจัดกระเช้าของขวัญปีใหม่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และจะมีการจัดประกวดกระเช้าปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้สื่อมวลชนและองค์กรอื่นๆ เช่น สสส. เครือข่ายงดเหล้า ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินด้วย สำหรับกระเช้าที่ชนะเลิศ จะนำไปมอบให้นายกรัฐมนตรี ส่วนรองชนะเลิศจะมอบให้รองนายกรัฐมนตรีต่อไป
ทางด้านนายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 หากมีการจัดกระเช้าที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมีความผิดตามมาตรา 30(5) ในข้อหา ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยแจก แถม ให้ หรือแลกเปลี่ยนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกับสินค้าอื่น หรือให้บริการอย่างอื่นแล้วแต่กรณี หรือแจกจ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะเป็นตัวอย่างเครื่องดื่มหรือเป็นการจูงใจสาธารณชนให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขการขายในลักษณะที่เป็นการบังคับซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยทางตรงหรือทางอ้อม มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 32 กรณีที่มีการกระทำที่เป็นการโฆษณาหรือสื่อสารการตลาดร่วมด้วย
นอกจากนี้ ต้องเข้มงวดกฎหมายการห้ามดื่มและขายในวัด สถานที่ราชการ โรงเรียน สวนสาธารณะ หากละเมิดต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะมีช่วงเวลาซื้อและขายที่กำหนดให้เท่านั้น คือเวลา 11.00-14.00 น.และ17.00-24.00น. หากละเมิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ซื้อจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี
**************************** 23 ตุลาคม 2552
View 17
23/10/2552
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ