สธ.ขอแรงอสม. ชาวบ้านในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ช่วยดูแลความปลอดภัย ร.พ. /สถานีอนามัย

กระทรวงสาธารณสุข ขอแรงอาสาสมัครอาสาธารณสุขและประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัยสถานีอนามัย/โรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ หลังสถานีอนามัยโตะแน ต.ตะโละตือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ถูกวางเพลิง ขณะนี้ต้องปิดทำการชั่วคราวเพื่อซ่อมแซมภายในอาคาร ชี้การเผาทำลายสถานพยาบาล เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้เจ็บป่วย ยิ่งทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนทั้งคน อุปกรณ์การแพทย์ และเวชภัณฑ์ดูแลผู้ป่วย จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้าไปราดน้ำมันวางเพลิงที่สถานีอนามัยโตะแน หมู่ 8 ต.ตะโละตือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 ทำให้เพลิงลุกไหม้ภายในอาคาร เผาเครื่องมือแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการรักษาพยาบาลประชาชนจนเสียหายทั้งหมดนั้น ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ที่สถานีอนามัยโตะแน มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำการ 2 คน ในวันดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่หญิงอยู่ในสถานีอนามัย 1 คน เจ้าหน้าที่ชายอีก 1 คน เข้าไปทำงานบริการประชาชนในหมู่บ้าน เพลิงไหม้ดังกล่าวทำให้เครื่องมือแพทย์ได้แก่ คลังยา เวชภัณฑ์ เตียงผู้ป่วย จำนวน 3 เตียง วิทยุสื่อสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องทำแผล เครื่องวัดความดันโลหิต เข็มฉีดยา อุปกรณ์ทำแผล ตูเย็นเก็บยาและวัคซีน เอกสาร ที่ใช้ประจำสถานีอนามัย ได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งผลจากเหตุการณ์นี้ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ที่เจ็บป่วย เพราะขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นในการเยียวยา และขณะนี้ต้องปิดทำการชั่วคราวเพื่อซ่อมแซมภายในอาคาร หากประชานในพื้นที่ดังกล่าวเจ็บป่วย สามารถไปใช้บริการได้ที่โรงพยาบาลกะพ้อ ซึ่งเปิดรับฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ในการป้องกันความสูญเสียสถานพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลชุมชนและสถานอนามัย ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้ให้ผู้บริหารเข้มงวดมาตรการความปลอดภัย พร้อมทั้งประสานขอแรงอาสาสมัครสาธารณสุขและ ประชาชน ช่วยกันสอดส่องความปลอดภัยสถานพยาบาล เพราะถือว่าเป็นทรัพย์สินของประชาชนเช่นกัน ขณะเดียวกันได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาความปลอดภัยสถานพยาบาล ให้เป็นที่พึ่งประชาชนตลอด เวลา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไม่ว่าแพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ พร้อมให้การดูแลประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง นายแพทย์ปราชญ์กล่าว ******************************** 10 มกราคม 2550