สาธารณสุข จัดบริการค้นหาผู้ป่วยโรคเบาหวานขึ้นตา ป้องกันตาบอด เนื่องในวันเบาหวานโลก และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 และจัดบริการผ่าตัดรักษาเคลื่อนที่ด้วยเลเซอร์ต่อเนื่อง 2 ปี ตั้งเป้า 9,999 ดวงตา แนะผู้ป่วยเบาหวานควรตรวจสุขภาพตาประจำทุกปี คาดว่าขณะนี้จะมีผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตาขั้นรุนแรง เสี่ยงบอด ไม่ต่ำกว่า 30,000 คน วันนี้ (13 พฤศจิกายน 2552) ที่ห้องประชุมเมือง ต.ทุ่งท่าลาด อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายไมเคิล สเติร์นเบิร์ก (Michael Sternberg) เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย และผู้แทนสมาคม วาย ดับบลิว ซี เอ (Y.W.C.A.) เปิดโครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันภาวะตาบอดจากเบาหวาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 และเนื่องในวันเบาหวานโลกซึ่งตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า ในปี 2551 ประเทศไทยพบผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ 388,551 ราย เสียชีวิต 7,725 ราย คาดว่าทั่วประเทศจะมีคนเป็นเบาหวานกว่า 3 ล้านคน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผู้ป่วยเกือบร้อยละ 50 ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นโรค แนวโน้มป่วยเป็นเบาหวานสูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น โรคนี้รักษาไม่หายขาด ต้องกินยาควบคุมอาการต่อเนื่อง โดยแต่ละปีไทยเสียค่าใช้จ่ายในการรักษากว่า 3 หมื่นล้านบาทและอาจพุ่งขึ้นเป็นแสนล้านบาท หากมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น ที่พบบ่อยได้แก่ โรคเบาหวานเข้าจอประสาทตา พบได้ 1 ใน 4 ของผู้ป่วย ทำให้สายตาเลือนราง คาดว่าจะมีผู้ป่วยเป็นเบาหวานขึ้นตาขั้นรุนแรงไม่ต่ำกว่า 30,000 คน แต่ถ้าผู้ป่วยเบาหวานได้รับการรักษาที่เหมาะสม จะลดปัญหาตาบอดได้ถึงร้อยละ 50 คาดว่าในปี 2568 ไทยจะมีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มเป็น 4.7 ล้านคน เสียชีวิตปีละ 52,800 คน ส่วนทั่วโลกมีประชากรที่เป็นเบาหวานและเบาหวานขึ้นตา จนตาบอดสนิทไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ในการป้องกันโรคตาบอดจากโรคเบาหวาน ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งปะเทศไทย สมาคมเบาหวานแห่งประเทศไทย จัดโครงการป้องกันตาบอดจากโรคเบาหวานเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งเป้าผ้าตัดรักษาผู้ป่วยที่เบาหวานขึ้นตา จำนวน 9,999 ดวงตาฟรี เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2552 – กันยายน 2554 ได้รับความร่วมมือจากประเทศเดนมาร์ก และมูลนิธิเบาหวานโลก สนับสนุนรถตรวจจอประสาทตาและเลเซอร์รักษาเบ็ดเสร็จเคลื่อนที่ (Mobile Eye Unit) จำนวน 2 คัน มูลค่าคันละ 7 ล้านบาท เป็นรถเคลื่อนที่คันแรกของโลกที่มีเครื่องเลเซอร์รักษาจอประสาทตา สามารถให้บริการได้ทุกท้องที่ ตลอดจนในที่ห่างไกล ทุรกันดาร นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ภายในรถ จะมีเครื่องมือไฮเทคตรวจรักษาตา ได้แก่ ถ่ายภาพจอประสาทตาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องวัดความดันลูกตาแบบอัตโนมัติ เครื่องตรวจจอประสาทตาแบบอ้อม ชนิด 2 ตา และเครื่องผ่าตัดด้วยแสงเลเซอร์ อย่างละ 1 เครื่อง ห้องผ่าตัดรักษาด้วยเลเซอร์ 2 ห้อง สามารถรักษาผู้ป่วยได้วันละ 30-40 ราย และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล โดยสปสช.สนับสนุนงบประมาณ 7 ล้านกว่าบาท มีโรงพยาบาลร่วมโครงการนำร่องปี 2553 นี้ 7 แห่ง ได้แก่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช รพ.ขอนแก่น รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.อุดรธานี รพ.ลำปาง รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก และ รพ.ศูนย์ราชบุรี ทั้งนี้ ความเสี่ยงเกิดเบาหวานขึ้นจอประสาทตานั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน มักพบ 7 ปีขึ้นไป มีหลายสาเหตุ ได้แก่ การควบคุมระดับน้ำตาลไม่ดี มีน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ซึ่งจะมีผลทำให้เส้นเลือดฝอยทั่วร่างกายเปลี่ยนแปลง มีความผิดปกติของผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา ทำให้มองเห็นไม่ชัด ตาพร่ามัว หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มผิดปกติ อาจทำให้ตาบอดได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่เกี่ยวข้องอีกคือ น้ำหนักตัวมาก ระดับไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ดังนั้น ผู้ที่เป็นเบาหวานจะต้องควบคุมตัวเองอย่าให้เกิดสิ่งที่เป็นความเสี่ยง และตรวจตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นเบาหวานขึ้นตา โดยสามารถเข้ารับบริการตรวจที่โรงพยาบาลทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ************************************** 13 พฤศจิกายน 2552


   
   


View 14       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ