สธ.ยัน “โรคลีเจียนแนร์ ” ไม่ใช่โรคใหม่ เป็นแล้วรักษาหาย ไม่น่ากลัว

อธิบดีกรมควบคุมโรค ยันโรคลีเจียนแนร์ ที่พบในชาวต่างชาติ หลังเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่ใช่โรคใหม่ พบได้ทั่วโลก เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเป็นแล้วไม่ติดต่อคนอื่น มียารักษาหายขาด ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขควบคุมมาตรฐานน้ำหล่อความเย็นระบบแอร์ในระดับที่ปลอดภัยแล้ว นักท่องเที่ยวหายห่วงได้ เกี่ยวกับที่มีข่าวพบนักเที่ยวชาวต่างชาติ 4 คน เป็นชาวสวีเดน 2 คน ฟินแลนด์และนอร์เวย์ มีอาการป่วยด้วยโรคลีเจียนแนร์ หลังจากเดินทางมาท่องเทียวที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ความคืบหน้าในเรื่องนี้นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรคให้สัมภาษณ์ว่า โรคลีเจียนแนร์ ( Legionnaires Disease) ไม่ใช่โรคใหม่ พบได้ทั่วโลกทั้งเขตร้อน เขตหนาว และกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังโรคนี้อยู่แล้ว เคยพบมีการระบาดในอดีตที่สหรัฐอเมริกา มีคนป่วยหลายร้อยคน โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าลีเจเนลลา นิวโมฟิลา (Legionella pneumophila) พบได้ทั่วไปทั่วโลกทั้งเขตร้อนเขตหนาวในประเทศที่พัฒนาแล้วก็มี ไม่เฉพาะประเทศไทย จึงไม่น่ากลัวแต่อย่างใด โดยเชื้อปนเปื้อนมากับละอองน้ำและเข้าสู่ทางเดินหายใจ เมื่อเป็นแล้วมียารักษาได้ง่าย ด้วยยาปฎิชีวนะที่มีชื่อว่าอิริทโทรมายซิน(erythromycin) สำหรับเชื้อเชื้อลีเจเนลลา นิวโมฟิลา มักจะอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีน้ำขังนิ่ง มีความชื้นสูง มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง แหล่งน้ำที่พบมักเป็นแหล่งน้ำที่ใช้หล่อความเย็นในระบบปรับอากาศ และมักจะเป็นแอร์ในโรงแรมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นระบบแอร์ใหญ่ที่ใช้ส่วนรวม ส่วนแอร์บ้านทั่วไปปลอดภัย ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ และน้ำที่ใช้บริโภคเช่นน้ำประปาจะไม่มีเชื้อนี้ นอกจากนี้ยังสามารถพบในโรงพยาบาลได้ด้วย โดยเฉพาะที่คนไข้ที่นอนโรงพยาบาลนานๆและให้ออกซิเจน ใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งมีความชื้น มีโอกาสติดเชื้อทำให้ปอดบวมได้ นายแพทย์ธวัช กล่าวต่อไปว่า อันตรายสำหรับโรคนี้นั้น ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะรักษาง่ายมาก และไม่ติดต่อจากคนสู่คน ไม่รุนแรงเหมือนโรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก ในประเทศไทยมีรายงานพบโรคนี้ประปรายและไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต โดยอาการเกิดขึ้น 2 ลักษณะ คือ อาการเบาจนถึงหนัก โดยอาการเบาๆจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ไอ คลื่นไส้อาเจียน ในทางการแพทย์เรียกว่า โรคไข้ปอนเตียก (Pontiac fever) โดยไม่มีอาการที่ปอด แต่หากเชื้อเข้าสู่ร่างกายไปที่ปอด ทำให้ปอดอักเสบ มีไข้สูง ไอ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และอาจเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต จะเรียกว่าโรคลีเจียนแนร์ ทั้งนี้โรงแรมส่วนใหญ่ในประเทศไทยโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งมีมาตรการในการควบคุมเชื้อลีจิโอเนลลาตามมาตรฐานที่กำหนดตามพระราชบัญญัติสาธารณสุขอยู่แล้ว สำหรับที่ภูเก็ตนั้น ขณะนี้กรมควบคุมโรคและกรมอนามัย ได้ร่วมกันควบคุมระบบน้ำหล่อความเย็นในโรงแรมให้เป็นไปตามมาตรฐานและอยู่ในระดับที่ปลอดภัยแล้ว ดังนั้นนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศไม่ต้องวิตกกังวล ประการสำคัญที่สุดคือ หากนักท่องเที่ยวมีอาการเจ็บป่วยคล้ายกับอาการที่กล่าวมาหลังกลับจากท่องเที่ยว ขอให้นึกถึงโรคลีเจียนแนร์และให้ไปพบแพทย์และเล่าประวัติให้แพทย์ทราบ เพื่อแพทย์จะสามารถวินิจฉัยโรคได้ และให้การรักษา ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ก็หายขาด และการเกิดขึ้นซ้ำนั้นเป็นไปได้ยากมาก จึงไม่ใช่โรคที่น่ากลัวแต่อย่างใด และเมื่อเทียบกับต่างประเทศแล้วไทยพบโรคนี้น้อยนายแพทย์ธวัชกล่าว มกราคม6/6 ***************************** 24 มกราคม 2550