สาธารณสุข ให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด เป็นจุดประสานและสนับสนุนข้อมูลในการประเมินผลกระทบสุขภาพจากมลพิษสิ่งแวดล้อม ทั้งสารเคมี ฝุ่นละออง เสียง ขยะอันตราย ที่เกิดจากการลงทุนพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ทุกจังหวัดก่อนที่จะลงมือก่อสร้าง และจัดทำเกณฑ์มาตรฐานประกอบการประเมินผล เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชนอย่างเป็นระบบ ป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิต บ่ายวันนี้ (3 มีนาคม 2553) ที่โรงแรมรามา การ์เดนส์ กทม. นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดอบรมเชิงปฏิบัติการนักวิชาการจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ กรมอนามัย และศูนย์อนามัย จำนวน 250 คน เรื่องการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพหรือเอชไอเอ (HIA: Health Impact Assessment) ที่เกิดจากโครงการลงทุนพัฒนาภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อปกป้องความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ ป้องกันปัญหาการเจ็บป่วยของประชาชน จากมลพิษที่เกิดจากการพัฒนาดังกล่าว นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นการป้องกันก่อนปัญหาเกิด ได้มอบนโยบายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เป็นจุดประสานงาน และสนับสนุนข้อมูลในการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพจากการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพของประชาชนจากโครงการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และประสานการทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดปัญหาต่อสุขภาพประชาชน และไม่ให้เกิดปัญหาการร้องเรียน ฟ้องร้องว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย นอกจากนี้ ได้ให้กรมอนามัย จัดทำคู่มือการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานแก่บริษัทที่รับผิดชอบประเมินผล และร่วมในคณะกรรมการผู้ชำนาญการสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการพิจารณาให้ความเห็นว่า ผลการประเมินมีความชัดเจน เชื่อถือได้ มีมาตรการในการป้องกันผลกระทบที่ได้ผล ก่อนเสนอให้ผู้มีอำนาจในการอนุญาตอนุมัติ เพื่อเป็นการปกป้องดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการพัฒนาโครงการต่างๆ ทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ ทำให้เกิดปัญหามลพิษในสิ่งแวดล้อม ทั้งจากฝุ่นละออง สารเคมี เสียง ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง เกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตตามมา โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ ที่เป็นเขตอุตสาหกรรม เช่น ปัญหาเหมืองตะกั่วที่จ.กาญจนบุรี ปัญหาจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง และปัญหาจากโครงการปิโตรเคมีที่มาบตาพุด จ.ระยอง เป็นต้น ด้านดร.นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสุขภาพประชาชนเป็นไปตามกฎหมาย โดยการสนับสนุนด้านวิชาการและข้อมูลด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ หรือ เอช ไอ เอ (HIA : Health Impact Assessment) รวมทั้งสนับสนุนการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ที่กำหนดให้ต้องมีการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ในรายงานวิเคราะห์การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ (EIA : Environmental Impact Assessment) ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 เพื่อคาดการณ์ผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น และวางมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว เป็นข้อเสนอแนะประกอบการตัดสินใจ ที่ผู้ประกอบกิจการ ผู้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องยื่นประกอบในการขออนุญาตดำเนินการ ************************* 3 มีนาคม 2553


   
   


View 9    03/03/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ