วันนี้(5 มีนาคม 2553) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และมอบนโยบายการทำงาน ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมียาสมุนไพรที่อยู่ในบัญชียาหลักทั้งหมด 19 รายการ ดังนั้นจึงได้ให้กรมพัฒนาแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดทำบัญชียาเพิ่มเติมขึ้นอีก 1 ชุด ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม เพื่อให้แพทย์หรือผู้เกี่ยวข้อง สามารถนำยาสุมนไพรไทยมาใช้รักษาในโรงพยาบาลได้มากขึ้น ขณะนี้ได้รับความเห็นชอบจากกรมบัญชีกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ในการขึ้นทะเบียนตำรับยาไทย จะได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในเรื่องคณะอนุกรรมการที่จะพิจารณาการขึ้นทะเบียนตำรับยา ซึ่งจะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของยาสมุนไพรไทยโดยเฉพาะ เพื่อให้การขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนโบราณและยาสมุนไพรไทยมีความรวดเร็วขึ้น
พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดทำตำรับยาไทยที่มีอยู่และไม่ซ้ำกับยาแผนปัจจุบันที่ใช้อยู่ ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนว่า มีโรคใดบ้างที่ยังไม่มียาแผนปัจจุบันรักษา มียาแผนไทยส่วนใดบ้างที่มาใช้ประโยชน์ในการรักษาได้ และแยกตำรับยาไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน ว่าสามารถลดการนำเข้าจากต่างประเทศกี่รายการ มีมูลค่าเท่าใด เพื่อจะได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานในอนาคตต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีแพทย์แผนไทยทั้งหมด 1,100 – 1,200 คน ซึ่งคาดว่าจะสอบใบประกอบโรคศิลปะในปี 2553 ได้ประมาณ 400 - 500 คน หากรวมกับแพทย์แผนไทยซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 700 คน กระทรวงสาธารณสุขจะให้แพทย์แผนไทยบางส่วน เข้ามาช่วยงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยในพื้นที่ โดยจะหาหรือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและชุมชนเพื่อกำหนดงบประมาณต่อไป
................................. 5 มีนาคม 2553
View 15
05/03/2553
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ