ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยโรคมะเร็งเป็นภัยร้ายตัวฉกาจ ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ปีละกว่า 55,000 ราย เป็นชายมากกกว่าหญิง 2 เท่าตัว กว่าครึ่งเป็นผู้สูงอายุ แนะสูตรลดเสี่ยงมะเร็ง เพิ่ม 5 ลด 7 อาทิ เพิ่มกินผักผลไม้สดมากขึ้นให้ได้วันละ 4 ขีด เพิ่มการออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักตัว ลดกินอาหารมัน ดองเค็ม อาหารปิ้ง-ย่าง รมควัน อาหารสุกๆดิบๆ ลดสูบบุหรี่ ลดเหล้า
นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์สุขภาพคนไทย ว่า โรคที่เป็นภัยสุขภาพของคนไทยที่ร้ายแรงที่สุดในขณะนี้ คือโรคมะเร็ง จากการวิเคราะห์สถิติการเสียชีวิตของคนไทยย้อนหลังตั้งแต่ พ.ศ.2543 ซึ่งมีปีละประมาณ 3 แสนคน พบว่ามะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นเวลา 9 ปี ล่าสุดในพ.ศ.2551 มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 55,403 คน เป็นชาย 32,060 คน หญิง 23,343 คน โดยร้อยละ 53 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป รองลงมาคือวัยแรงงาน อายุ 15-59 ปี ร้อยละ 46 เฉลี่ยแล้วในแต่ละวันจะมีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 152 คน หรือชั่วโมงละ 6 คน
เมื่อแยกตามอวัยวะที่เกิดมะเร็ง อันดับ 1 มะเร็งตับ 14,084 คน เป็นชาย 9,951 คน หญิง 4,133 คน อันดับ 2 มะเร็งหลอดลม ปอด 8,565 คน ชาย 5,801 คน หญิง 2,764 คน ทั้งมะเร็งตับและมะเร็งปอด ผู้เสียชีวิตเป็นชายมากกว่าหญิง 2 เท่าตัว อันดับ 3 มะเร็งเต้านม 2,347 คน อันดับ 4 มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก 1,839 คน ขณะที่องค์การอนามัยโลกรายงานในปี 2548 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเกือบ 8 ล้านคน
ด้านนายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สาเหตุการเกิดมะเร็งปัจจุบันยังไม่ทราบแน่นอน ในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง มีข้อแนะนำ 12 ประการ โดย 5 ประการเป็นการป้องกัน ได้แก่ 1.ให้รับประทานผักตระกูลกะหล่ำให้มาก เช่นกะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ผักคะน้า หัวผักกาด บรอคโคลี่ 2.รับประทานอาหารที่มีกากใยมาก เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวโพด เมล็ดธัญพืช 3.รับประทานอาหารที่มีสารเบต้า-แคโรทีนและวิตามินเอสูง เช่น ผักสด ผลไม้ที่มีสีเขียวเหลือง เช่น มะละกอ ส้ม 4.รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่นผลไม้ต่างๆ และ5.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมน้ำหนักตัว ไม่ให้อ้วน โดยควรกินผัก ผลไม้ให้ได้วันละ 400 กรัม
ส่วนอีก 7 ประการเป็นวิธีลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ได้แก่ 1.ไม่รับประทานอาหารที่มีราขึ้น 2.ลดอาหารไขมัน 3.ลดอาหารดองเค็ม อาหารปิ้ง-ย่าง รมควัน 4.ไม่กินอาหารสุกๆดิบๆ เช่นก้อยปลา ปลาจ่อม เพราะจะทำให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ 5.หยุดหรือลดสูบบุหรี่ 6.ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ 7.อย่าตากแดดจัด ซึ่งจะเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
ทั้งนี้ การก่อตัวของโรคมะเร็งจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่รู้ตัว จึงแนะนำผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพค้นหาความผิดปกติอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากตรวจพบเร็วโอกาสรักษาหายจะมีสูง สัญญาณผิดปกติที่สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งมี 7 ประการ ได้แก่ 1.มีเลือดออกหรือมีสิ่งขับออกจากร่างกายผิดปกติ เช่นตกขาวมากเกินไป 2.มีก้อนเนื้อหรือตุ่มเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งของร่างกายและก้อนนั้นโตเร็ว 3.มีแผลเรื้อรังรักษาหายยาก 4.ถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะผิดปกติหรือเปลี่ยนไปจากเดิม 5.เสียงแหบหรือเรื้อรัง 6.กลืนอาหารลำบากหรือทานอาหารแล้วไม่ย่อย และ7.มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝ หากมีอาการเหล่านี้ขอไปให้พบแพทย์โดยเร็ว
***************9 พค. 53
View 16
09/05/2553
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ