นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศระเบียบคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบอัตราเงินค่าปรับ ผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้าม และการโฆษณา เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเปรียบเทียบอัตราเงินค่าปรับ ในเขตกรุงเทพฯ ได้แก่ ปลัดกรุงเทพมหานครหรือผู้แทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักอนามัยหรือผู้แทน ส่วนต่างจังหวัด ได้แก่ อัยการจังหวัดหรือผู้แทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหรือผู้แทน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหรือผู้แทน และพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้จัดส่งรายงานการเปรียบเทียบอัตราเงินค่าปรับ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกเดือน เพื่อจัดทำสถิติผู้ต้องหาหรือผู้กระทำผิด จำนวนคดีแต่ละข้อหาความผิด และส่งเงินค่าปรับให้กระทรวงการคลังต่อไป ประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2553 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในการเปรียบเทียบอัตราเงินค่าปรับให้คำนึงถึงความหนักเบาของข้อหา และพฤติการณ์ของการกระทำผิด ความเสียหายที่ได้รับหรือผลกระทบต่อผู้ใช้บริการและสังคมโดยรวม ตลอดจนอายุ ประวัติความประพฤติ สติปัญญา สุขภาพ อาชีพ ขนาดการลงทุนกิจการและอื่นๆ ของผู้กระทำความผิดประกอบด้วย
ด้านนายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำนักงานฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนประกาศดังกล่าวไปยังกทม. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อยึดเป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน สำหรับอัตราการเปรียบเทียบค่าปรับตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มีทั้งหมด 29 มาตรา ตั้งแต่มาตรา 26-32 มาตรา 34 และมาตรา 36 เช่น มาตรา 26 ข้อหาความผิดผู้ผลิตหรือนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่มีข้อความคำเตือน อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยอัตราค่าปรับกำหนดให้เปรียบเทียบปรับ 100,000 บาท ข้อหาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามขาย ตามมาตรา 27 เช่นในปั้มน้ำมัน สวนสาธารณะ สถานที่ราชการ ขายผิดเวลาตามมาตรา 28 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยในการเปรียบเทียบปรับแบ่งออกเป็น 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ปรับ 3,000 บาท หากผิดครั้งที่ 2 ปรับเพิ่มเป็น 6,000 บาท และผิดครั้งที่ 3 ปรับเป็น 10,000 บาท
นายแพทย์สมานกล่าวต่อว่า กรณีความผิดมาตรา 29 คือขายให้แก่บุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ หรือขายให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กำหนดอัตราเปรียบเทียบปรับแบ่งเป็น 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ปรับ 6,000 บาท ครั้งที่ 2 ปรับ 12,000 บาท ครั้งที่3 ปรับ 20,000 บาท แต่ถ้าขายโดยใช้เครื่องขายอัตโนมัติ แม้ว่าอัตราโทษจะเท่ากันแต่เนื่องจากมักจะดำเนินการโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ จึงเปรียบเทียบปรับอัตราเดียว 20,000 บาท กรณีโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งบังคับเฉพาะมีต้นกำเนิดในประเทศ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวัน วันละไม่เกิน 50,000 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง เปรียบเทียบปรับแบ่งเป็น 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ปรับ 50,000 บาท ผิดครั้งที่ 2 ปรับ 200,000 บาท ผิดครั้งที่ 3 โทษปรับเพิ่ม 500,000 บาท
********************* 16 มิถุนายน 2553