เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นปี 2553 หวังสปาไทยติดอันดับนิยมระดับโลก

 วันนี้ (26 สิงหาคม 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานแถลงข่าววิสิท ไทยแลนด์ วิสิท ไทย สปา (Visit Thailand Visit Thai Spa) ว่า กระทรวงสาธารณสุขจัดทำโครงการเมดิคอลฮับ (Medical Hub) เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์การแห่งการรักษาของเอเชีย โดยเน้นเรื่องการรักษาพยาบาล แต่การรักษาจะต้องไม่กระทบกับการให้บริการของคนไทย ดังนั้นจึงได้ให้สถานพยาบาลเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าว สำหรับรัฐบาลจะเน้นการให้บริการผู้ป่วยที่เป็นคนไทย

          นอกจากนี้ยังเน้นธุรกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพ เช่น สปา นวดแผนไทย เป็นต้น เน้นในเรื่องของการส่งเสริมการให้บริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รวมถึงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ใช้สมุนไพรไทยเป็นหลักในการผลิตเพื่อจำหน่าย และสนับสนุนให้เป็นศูนย์กลางการสาธารณสุขของภูมิภาค

          นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ได้มอบให้นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดูรายละเอียดโครงการจะต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบหรือไม่ในเรื่องของการสนับสนุนธุรกิจสปา รวมถึงการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2553 จะมีการนำเรื่องเมดิคอล ฮับ เข้าที่ประชุมกระทรวงซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีก

และเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายธุรกิจการท่องเที่ยวไทย ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับบริษัทการบินไทยและสมาพันธ์สปาไทยจัดโครงการพิเศษ วิสิท ไทยแลนด์ วิสิท ไทย สปา (Visit Thailand Visit Thai Spa) เพื่อดึงลูกค้าต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยสายการบินไทย สามารถนำหางตั๋วบัตรโดยสารเครื่องบิน มาใช้เป็นส่วนลดในการรับบริการในสปาไทย 28 แห่งที่ผ่านมาตรฐานของกระทรวง เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2553 นายจุรินทร์ กล่าว

ด้าน นายแพทย์นรา นาควัฒนานุกูล กล่าวว่า สปาที่เข้าร่วมโครงการวิสิท ไทยแลนด์ วิสิท ไทย สปา มีทั้งหมด 28 แห่งใน 7 จังหวัด แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ได้แก่ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 10 แห่ง 1.ซิกเซนท์ ไฮด์อเวย์ (Six Senses hideaway Samui) 2.ไรราสปา(Rai Ra Spa) 3.ปรานา สปา (Prana Spa) 4.สปา เซนวารี (Spa Cenvaree) 5.เนเชอรัล วิง เฮลท์ สปา แอนด์ รีสอร์ท (Netural Wing Health Spa & Resort) 6.บ้านตลิ่งงาม รีสอร์ท แอนด์ สปา (Baan Taling Ngam Resort and Spa) 7.สันติบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา(Santiburi Resort and Spa) 8.มันดารา สปา (Mandara Spa) 9.เมลาตี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (Melati Beach Resort & Spa) 10.อรันดา เฮอร์บอล์ สปา (Eranda Herbal Spa)

จังหวัดภูเก็ต 1 แห่ง คือมันดารา สปา ภูเก็ต (Mandara Spa Phuket) จังหวัดกระบี่ 1 แห่ง คือมันดารา สปา กระบี่ (Mandara Spa Krabi) จังหวัดระยอง 1 แห่ง คือภาราดี สปา (Paradee Spa) กรุงเทพ 6 แห่ง ได้แก่ 1.ดิโอเอซิส สปา กรุงเทพ (The Oasis Spa bangkok) 2.สปา เอทินี (Spa Athenee) 3.เดอะ สปา บาย เอ็มสปา (The Spa by Mspa) 4.วารีนา สปา (Vareena Spa) 5.มันดารา สปา กรุงเทพ (Mandara Spa Bangkok) 6.มันดารา สปา รอยัล ออร์คิด เชอราตัน กรุงเทพ (Mandara Spa Royal Orchid Sheraton Bangkok)

จังหวัดเชียงใหม่ 7 แห่ง ได้แก่ 1.ดิโอเอซิส สปา ลานนา (The Oasis Spa Lanna) 2.โอเอซิส สปา เชียงใหม่ (The Oasis Spa ChiangMai) 3.เต่าการ์เดนท์ เฮลล์ สปา แอนด์ รีสอร์ท (Tao Garden Health Spa and Resort) 4.สปา มันตรา อินเตอร์เนชั่นนัล (Spa Mantra International) 5.ลานนาคำ สปา (Lanna come spa) 6.เปียก สปา แอนด์ บิวตี้ ซาลอน เชียงใหม่ (Peak Spa and Beauty Salon) 7.อมร สปา เชียงใหม่ (Amora Spa) จังหวัดเชียงราย 2 แห่ง ได้แก่ อนันตรา สปา (Anantara Spa) และภูใจใส เมาเทน รี สอร์ท แอนด์ สปา(Phu Chaisai Mountain Resort & Spa) ซึ่งจะทำให้ชาวต่างชาติสัมผัสสปาที่ได้มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และนำไปเผยแพร่ขยายผลต่อ ๆไป

 ******************************** 26 สิงหาคม 2553
 

 

ใน 7 จังหวัดท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นปี 2553 หวังสปาไทยติดอันดับนิยมระดับโลก 


   
   


View 8       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ