ผลเบื้องต้นพบเด็กป่วยและเสียชีวิตจากโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี  

      จากกรณีพันจ่าเอกวีรพล พุทธวจนะ นำโลงศพเปล่ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เรียกร้องความรับผิดชอบจากรพ.ท่าม่วง หลังพาบุตรชายชื่อเด็กชายพอเพียง พุทธวจนะ อายุ 1 ปี 8 เดือน ซึ่งป่วยเป็นไข้หวัด มีอาการหายใจติดขัด หายใจไม่ออก เข้ารับการรักษาที่รพ.ท่าม่วง และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา

          เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวพันจ่าเอกวีรพล พุทธวจนะ ที่ต้องสูญเสียบุตรไป ในวันนี้ (16 กันยายน 2553) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลท่าม่วง อ.ท่าม่วง และรายงานความคืบหน้าให้ทราบโดยเร็ว เพื่อให้ความกระจ่างแก่สาธารณชน และให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย
          นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เด็กชายพอเพียง ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลท่าม่วงเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2553 เวลาประมาณ 11.00 น. เนื่องจากเป็นหวัดมา 2 วัน แรกรับเด็กมีอาการหอบเหนื่อย หายใจติดขัด ไข้สูง แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดบวม รับตัวไว้นอนรักษาในโรงพยาบาล ให้ออกซิเจน ให้สารน้ำและยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงเด็กหายใจลำบาก หอบเหนื่อยมากขึ้น และมีอาการเขียว แพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และใช้เครื่องดูดเสมหะออก ครอบครัวขอพาไปรักษาต่อที่รพ.มะการักษ์   ระหว่างนำเด็กขึ้นรถพยาบาลเตรียมนำส่ง เจ้าหน้าที่ให้ออกซิเจนทางท่อช่วยหายใจ เด็กมีอาการทรุดลง มีอาการเขียว และหยุดหายใจ จึงย้ายกลับมาให้การช่วยฟื้นคืนชีพที่ห้องฉุกเฉิน และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 14.00 น. ซึ่งทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลท่ามะกาได้ให้การดูแลรักษาตามหลักวิชาการอย่างเต็มที่ และรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กชายพอเพียงได้ เนื่องจากเด็กเป็นปอดบวม อาการรุนแรงมาก
          นายแพทย์สุพรรณกล่าวอีกว่า สำหรับโรคปอดบวม เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคจะทำให้ถุงลมเล็กๆ ที่มีนับล้านในปอดเกิดการอักเสบ ไม่สามารถนำออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ การเกิดปอดบวมอาจเกิดหลังจากเป็นไข้หวัด 2-3 วัน หรือเป็นตั้งแต่แรกก็ได้ โดยอาการจะมีไข้สูง ไอมาก หายใจเร็ว ถ้าเป็นมากจะหอบเหนื่อย หายใจลำบาก มีเสียงครืดคราดเนื่องจากมีเสมหะมาก จะต้องรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว ในเด็กที่มีร่างกายอ่อนแอ มีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ เช่น โรคเลือด ม้ามทำงานไม่ดี เป็นภูมิแพ้ หากเป็นโรคปอดบวม จะมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง ซึ่งสถานการณ์โรคปอดบวมในปีนี้ พบว่าร้อยละ 43 ของผู้ป่วย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี 
           ในช่วงนี้เป็นฤดูฝน เด็กๆจะป่วยเป็นไข้หวัดกันมาก ขอให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลาน โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หากมีอาการป่วย มีไข้สูงติดต่อกัน 2 วัน น้ำมูกเปลี่ยนเป็นสีเขียว หายใจเร็ว หายใจหอบ หรือหน้าอกบุ๋ม หายใจมีเสียงดัง ซึมลง ไอมาก ขอให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที นายแพทย์สุพรรณกล่าว

                          ***************************** 16 กันยายน 2553



   
   


View 11    16/09/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ