Breadcrumbs Image

“จุรินทร์” ย้ำมาตรการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ยังได้ผลในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ย้ำขณะนี้โรงพยาบาลยังไม่จำเป็นต้องเปิดช่องทางด่วนตรวจคัดกรองผู้ป่วย

  • หน้าหลัก
  • ข่าวเพื่อมวลชน
  • “จุรินทร์” ย้ำมาตรการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ยังได้ผลในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ย้ำขณะนี้โรงพยาบาลยังไม่จำเป็นต้องเปิดช่องทางด่วนตรวจคัดกรองผู้ป่วย


 

 
            วันนี้ (17 กันยายน 2553) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ภายหลังวางศิลาฤกษ์อาคารผู้ป่วยใน และหอพักพยาบาล โรงพยาบาลท้ายเหมือง จ.พังงา ว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ขณะนี้ ตัวเลขล่าสุด พบว่ายังไม่จำเป็นต้องเปิดช่องทางด่วนสำหรับตรวจคัดกรองผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้ได้ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมควบคุมโรคพิจารณาและตัดสินใจว่าสถานการณ์ถึงขั้นใดจึงต้องมีช่องทางด่วน และจะได้ประกาศไปเป็นลำดับ                  
“ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกจังหวัด เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง มีการรายงานเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยสูงสุด 10 อันดับแรก ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด”                  นายจุรินทร์กล่าว
                นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากฝากประชาชนในเรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ ไม่อยากให้ประมาท และไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป ซึ่งมาตรการเดิมที่กระทรวงสาธารณสุขใช้รณรงค์ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ก็คือกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หลีกเลี่ยงการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ หากจำเป็นขอให้สวมหน้ากากอนามัย ส่วนผู้ที่ป่วยขอให้หยุดงาน หยุดเรียนจนกว่าจะหายป่วย ยังเป็นมาตรการที่ใช้ได้ผลดี ขอให้ประชาชนทุกคนยึดเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
          และวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกัน ขอให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง7 กลุ่ม คือ 1.หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์เกินกว่า 7เดือน 2.ประชาชนที่อ้วนน้ำหนักตัวมากกว่า 100กิโลกรัม 3.ผู้พิการทางสมอง 4.ประชาชนอายุ 6เดือนขึ้นไปที่มีโรคเรื้อรัง 10โรค 5.ผู้สูงอายุเกินกว่า 65ปีขึ้นไป 6.เด็กอายุตั้งแต่ 6เดือน - 2ปีและ7.บุคลากรทางสาธารณสุขและผู้มีหน้าที่กำจัดซากสัตว์ปีก ที่ยังไม่ได้ฉีด ขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3สายพันธุ์ ทั้งไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลสายพันธุ์เอ และบี และไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างให้บริการฟรี ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2553 ส่วนผู้ที่อยู่นอกกลุ่มเสี่ยง หากเป็นไปได้ขอให้ไปรับการฉีดวัคซีนด้วย โดยเสียค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งจะเป็นผลดีแก่ตัวเอง”                       นายจุรินทร์ กล่าวในที่สุด
 *****************************17 กันยายน 2553
 


   
   


View 12    17/09/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ