ตามที่มีข่าวนางกัญญารัตน์ ตาเสือ อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดพิจิตร อยู่บ้านเลขที่ 117หมู่ 4 ต.วังหลุมอ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชน เนื่องจากได้รับความทุกข์ทรมานจากท้องที่โตขึ้นหลังจากคลอดบุตรคนที่ 3 ซึ่งตั้งครรภ์นานถึง 3 ปี และหลังคลอดท้องโตขึ้นเรื่อย ๆ ขณะนี้วัดรอบท้องได้ถึง 56นิ้ว น้ำหนักตัวเกือบ 100กิโลกรัมลุกเดินไม่ไหว นอนหงายไม่ได้เพราะหายใจไม่ออก อีกทั้งมีโรคแทรกซ้อนถึง 5โรค สามีและลูกไม่ดูแล ต้องมาอาศัยพี่สาวที่บ้านเกิด ต.วังหลุม อ.ตะพานหินจ.พิจิตร แต่พี่สาวฐานะยากจน ไม่มีเงินพาไปหาหมอ คิดว่าเกิดจากบาปกรรมที่ทำงานผ่าท้องชำแหละหมูเมื่อตอนอยู่กับสามีทำอาชีพฆ่าหมู ที่จังหวัดสระบุรีนั้น

ความคืบหน้าในวันนี้ (20 กันยายน 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินท์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ป่วยรายนี้ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ได้รับรายงานจากผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขว่า ขณะนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้ให้การช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่ จากการวินิจฉัยพบว่าป่วยด้วยโรคหัวใจล้มเหลว จนทำให้มีน้ำในช่องท้องมาก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าโรคท้องมานที่เกิดจากหัวใจล้มเหลว ทำให้ผู้ป่วยมีน้ำในช่องท้องมาก ท้องบวม จึงทำให้เข้าใจผิดว่าท้องนานหลายปีแล้วไม่คลอด
ด้านนายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช กล่าวว่า โดยปกติโรคหัวใจรักษาได้ ในการรักษาผู้ป่วยรายนี้ว่าจะหายหรือไม่ จะต้องหาสาเหตุและความรุนแรงของโรคหัวใจที่เป็น หากทางจังหวัดพิจิตรไม่สามารถรักษาได้ ก็สามารถประสานส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ได้
ทางด้านนายแพทย์ประจักษ์ วัฒนะกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ย้ายมาจากจังหวัดสระบุรี มาอยู่ที่อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่3 กันยายน 2553 ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ได้รับตัวไว้รักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2553 โดยผู้ป่วยให้ประวัติว่าตั้งครรภ์บุตรคนทุดท้ายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หลังคลอดได้ 2 ปี เริ่มมีอาการตัวบวม เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิตและรพ.อื่น ๆ อีกหลายแห่ง
จากการตรวจสุขภาพของแพทย์พบว่า ผู้ป่วยรายนี้ เป็นหลายโรค ทั้งโรคหัวใจ เบาหวาน และไตวาย ซึ่งทำให้เกิดอาการบวมทั่วตัวจากการบวมน้ำ ไม่ใช่โรคเวรกรรมอย่างที่ผู้ป่วยเข้าใจ และขณะนี้อาการผู้ป่วยดีขึ้นแล้ว ไม่มีภาวะแทรกซ้อน อยู่ในความดูแลของอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาโรคหัวใจ ให้หัวใจแข็งแรงขึ้น เต้นดีขึ้น และปรับปริมาณน้ำให้เหมาะสม อาการบวมจะค่อยๆ ลดลง อยู่ระหว่างโอนย้ายสิทธิโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจากจังหวัดสระบุรีมาอยู่ที่จังหวัดพิจิตร เพื่อให้สามารถใช้สิทธิการรักษาฟรี คาดว่าจะอยู่ในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน อีกอย่างน้อยประมาณ 2 สัปดาห์
************************ 20 กันยายน 2553
 


   
   


View 14    20/09/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ