นายบุณย์ธีร์  พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการแพทย์แผนจีน เป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ตามที่ นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ และเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วจะได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไป

นายบุณย์ธีร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการอนุญาตให้บุคคลประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีน พ.ศ. 2552 ฉบับที่ 2 ซึ่งมีผลบังคับใช้ เป็นกฎหมาย ตั้งแต่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นมา กำหนดให้บุคคลที่ศึกษาการแพทย์แผนจีนสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ หรือมีประสบการณ์ในการประกอบโรคศิลปะในสาขานี้ สามารถขอขึ้นทะเบียนขอรับอนุญาตการประกอบโรคศิลปะในประเทศไทยได้ ซึ่งเป็นการอนุญาตชั่วคราว มีอายุ 2 ปี 

นายบุณย์ธีร์ กล่าวต่อว่า สำหรับ พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้  จะมีผลให้ผู้ที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้ทำการประกอบโรคศิลปะ โดยอาศัยศาสตร์การแพทย์แผนจีน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการอนุญาตให้บุคคลทำการประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยศาสตร์การแพทย์แผนจีนพ.ศ.2552 และหนังสืออนุญาตยังไม่สิ้นอายุในวันที่พระราชกฤษฏีกาฯใช้บังคับ ให้ถือว่ามีความรู้ในวิชาชีพ มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนได้ ทั้งนี้ ต้องผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไข ที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนกำหนด มีคุณภาพมาตรฐานในการประกอบโรคศิลปะ

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข  มีนโยบายที่ส่งเสริมสนับสนุนให้นำระบบการดูแลรักษาสุขภาพตามศาสตร์แขนงต่างๆ ทั้งการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีนและการแพทย์ทางเลือก ให้บริการผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่หลากหลาย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลด้านคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย

******************************************************* 22 กันยายน 2553

  


   
   


View 14    22/09/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ