วันนี้ (29 กันยายน 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ รักษาฟรี 48 ล้านคน แค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ซึ่งจะเริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 นี้เป็นต้นไป
นายจุรินทร์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมมานาน 6 เดือน สำหรับการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทอง ให้ประชาชน 48 ล้านคนที่มีสิทธิการรักษาพยาบาลในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับ ที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ ซึ่งในการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันว่ามีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ และได้ทดสอบระบบการเชื่อมโยงฐานข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์ระหว่างหน่วยบริการกับสปสช. เพื่อตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล
สำหรับสถานีอนามัยและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อีกประมาณร้อยละ 3 ที่อยู่ห่างไกล ไม่มีระบบคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต เจ้าหน้าที่จะสำเนาฐานข้อมูลรายชื่อจากส่วนกลางและปรับให้ทันสมัยทุกเดือน กำหนดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป ประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพการบริการในโครงการ โรงพยาบาลยุคใหม่ เพื่อคนไทยสุขภาพดี มีรอยยิ้ม หรือโรงพยาบาล 3 ดี มั่นใจว่าประชาชนจะมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้น
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สำหรับหน่วยบริการอื่นๆ นอกสังกัด ในฐานะประธานกรรมการบริหารสปสช. ได้ลงนามในหนังสือสั่งการเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2553 เพื่อย้ำอีกครั้งว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป หน่วยบริการทุกหน่วยในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จะต้องใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการรับบริการฟรีได้ที่หน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรือหากประชาชนยังไม่ได้รับบัตรประชาชนสามารถใช้บัตรอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักและรูปถ่าย ส่วนผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีซึ่งยังไม่มีบัตรประชาชน ให้ใช้สำเนาสูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้าน ยกเว้นกรณีอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถรับบริการที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ เช่น อยู่ที่กรุงเทพฯ ไปเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็สามารถเข้ารักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐในจังหวัดเชียงใหม่ได้ทันที โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวรับบริการ
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า สำหรับสิทธิรับการรักษาฟรี เป็นไปตามชุดสิทธิประโยชน์โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งขณะนี้ครอบคลุมเกือบครบทุกโรค รวมถึงบริการทำฟัน การตรวจสุขภาพ และการฟื้นฟูสภาพหลังเจ็บป่วยในรายการที่เหมาะสม การรักษาฟรีเช่นโรคเอดส์ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต ถ้าจำเป็นสามารถผ่าตัดเปลี่ยนไต ล้างไต และมีบริการส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านฟรี ยกเว้นการล้างไตผ่านเครื่องซึ่งมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1,500 บาท รัฐจ่ายให้ 1,000 บาท ผู้ป่วยร่วมจ่ายเพิ่มเพียง 500 บาท และไม่ครอบคลุมการผ่าตัดตกแต่ง การปลูกถ่ายตับ ปอด และหัวใจ ซึ่งมีราคาสูงมาก
************************************** 29 กันยายน 2553
View 4
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ