วันนี้ (1 ตุลาคม 2553) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมติดตามการใช้ระบบบัตรประชาชนใบเดียว รักษาฟรี 48 ล้านคน พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ว่า วันนี้เป็นวันแรกที่กระทรวงสาธารณสุข เริ่มต้นการใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเข้ารับบริการที่สถานบริการสาธารณสุข จากการดูความพร้อมของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า พบว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เรียบร้อยดี จากนี้ไปการเข้ารับบริการประชาชนที่อยู่ในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่ต้องใช้บัตรทองอีกต่อไป ใช้เพียงบัตรประชาชนเพียงใบเดียวเท่านั้น หรือจะใช้บัตรอื่นที่หน่วยงานราชการออกให้และมีเลขประจำตัว 13 หลัก พร้อมทั้งมีรูปถ่ายติดในบัตร เช่น ใบขับขี่ ก็ใช้ได้ สำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีซึ่งยังไม่มีบัตรประชาชน สามารถใช้สำเนาสูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อขอรับบริการรักษาฟรีได้

          นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า การดำเนินงานในพื้นที่อื่นๆ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มให้ใช้บัตรประชาชนใบเดียวแทนบัตรทองได้ จะมีการติดตามว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอุปสรรคใดๆ เพราะได้สั่งการเป็นนโยบายให้เตรียมการในเรื่องนี้มา 6 เดือนแล้ว จนกระทั่งมั่นใจว่ามีความพร้อม จึงกล้าประกาศว่าวันที่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป ประชาชนทั่วประเทศใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองได้ เพราะว่าได้มีการเตรียมระบบฐานข้อมูลให้ครบถ้วนทุกหน่วยบริการที่รับผิดชอบในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือรักษาฟรี 48 ล้านคน ซึ่งมีทั้งโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สังกัดกรุงเทพมหานคร โรงเรียนแพทย์ สังกัดกลาโหม ตำรวจ และสังกัดอื่น ๆ ที่เป็นหน่วยบริการในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งหมดได้มีการเตรียมความพร้อมแล้วเช่นกัน
“ปัญหาอุปสรรคหากจะมีบ้างก็อาจเป็นหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีระบบอินเตอร์เน็ต ได้มีการแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยใช้การสำเนาข้อมูลในแผ่นดิสก์ และปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยเป็นระยะๆ ตลอดเวลา เพื่อใช้ในการตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลของผู้มารับบริการให้สะดวก รวดเร็ว มั่นใจว่าจะดำเนินการได้ครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ” นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ในการรับบริการเมื่อมายื่นบัตรประชาชนที่จุดตรวจสอบสิทธิ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล ว่าอยู่ในสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม หรือสิทธิรักษาฟรี 48 ล้านคน และส่งไปรักษาตามแผนกที่ต้องการ ทั้งนี้ขั้นตอนในการไปรับบริการ ขอย้ำว่า หากกรณีเจ็บป่วยทั่วๆไปที่ไม่ฉุกเฉินเร่งด่วน จะต้องนำบัตรประชาชนไปขอรับการบริการที่หน่วยบริการตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ในระบบรักษาฟรี 48 ล้านคน เช่นอาจเป็นที่สถานีอนามัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลจังหวัดหรือโรงพยาบาลอื่นๆ ตามที่ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้น ซึ่งหากต้องส่งต่อแพทย์จะส่งต่อไปรักษาตามความเหมาะสม
สำหรับกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเร่งด่วนหรือเกิดอุบัติเหตุ สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียว เข้ารับการรักษาฟรี ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการรักษาฟรี 48 ล้านคนในพื้นที่นั้นๆ ได้ทันที ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก คล่องตัวขึ้น ไม่ต้องพกบัตรหลายใบอีกต่อไป และมีสิทธิประโยชน์มากมายในการรักษาฟรี เช่น โรคเอดส์ เบาหวาน มะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคจิตเวช โรคไต เป็นต้น 
********************************** 1 ตุลาคม 2553
 


   
   


View 13    01/10/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ