วันนี้ (4 ตุลาคม 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลชนิดรวม 3 สายพันธุ์ ไปแล้ว 1,729,000 โด๊ส คิดเป็นร้อยละ 82.3 ของเป้าหมาย ซึ่งถือว่าเร็วกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามได้ให้องค์การเภสัชกรรมสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มอีก 2.1 แสนโด๊ส คาดว่าวัคซีนชุดแรกจะมาถึงช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ และชุดที่ 2 ประมาณปลายเดือนตุลาคม 2553 ทันทีที่วัคซีนมาถึง กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งกระจายวัคซีนออกไปยังพื้นที่ตางๆ เพื่อให้บริการฉีดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยเร็ว

          นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอย้ำเตือนกลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่   ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 97 ราย   โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ทั้งคู่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยผู้เสียชีวิตรายแรกอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นโรคอ้วน หนักตัว 120 กิโลกรัม และรายที่ 2 อยู่ที่นครสวรรค์ เป็นโรคถุงลมปอดโป่งพอง ทั้ง 2 รายไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้อองกันไข้หวัดใหญ่   จึงขอให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้ง 7 กลุ่ม ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทั้ง 3 สายพันธุ์ เพื่อลดความเดสี่ยงสำหรับตัวเองลง
          ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต   ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ในปี 2553 มียอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึง 2 ตุลาคม 2553 รวมทั้งหมด 72,704 ราย เสียชีวิต 106 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 97 ราย กระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดให้เร่งควบคุมป้องกันการแพร่ระบาด เน้นหนักที่กลุ่มประชาชนอยู่รวมกันจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงติดเชื้อกันง่าย   เช่นที่เรือนจำ ที่วัด โรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม    ตามมาตรการ ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7กลุ่ม คือ1.หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์เกินกว่า 7เดือน2.ประชาชนที่น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม 3.ผู้พิการทางสมอง 4.ประชาชนอายุ6เดือนขึ้นไปที่มีโรคเรื้อรัง 10โรค 5.ผู้สูงอายุเกินกว่า 65ปีขึ้นไป6.เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน-2ปีและ7.บุคลากรทางสาธารณสุขและผู้มีหน้าที่กำจัดซากสัตว์ปีก ให้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนมากขึ้น เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรค ลดโอกาสป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่     
ส่วนการลดปัญหาการเสียชีวิตได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์แนะนำประชาชนกลุ่มเสี่ยง เมื่อมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัยและให้การรักษาตามมาตรฐานทันท่วงที รวมทั้งให้กรมการแพทย์จัดผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจ หมุนเวียนเป็นที่ปรึกษาให้ความช่วยเหลือโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการเสียชีวิตลงได้     
******************************** 4 ตุลาคม 2553


   
   


View 11    04/10/2553   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ