ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีเภสัชกร ประจำร.พ.พระนารายณ์มหาราช จ่ายยาโรคเบาหวาน ให้ผู้ป่วยผิดคน จนมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หมดสติจนต้องเข้ารักษาตัวในไอซียู เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นโรงพยาบาลยอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะให้การดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างดีที่สุด พร้อมปรับระบบการจ่ายยา ให้รอบครอบรัดกุม เพิ่มเภสัชกรประจำห้องจ่ายยา ป้องกันความผิดพลาดซ้ำ
จากกรณี นางลักขณา อุบลวัตร อยู่บ้านเลขที่ 48/3 ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี แจ้งความดำเนินคดีกับกระทรวงสาธารณสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและเภสัชกร ร.พ.พระนารายณ์มหาราช หลังพามารดาคือนางอำนวย นุชประไพ อายุ 65 ปี ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจโรคปวดข้อและกระดูกตามนัด เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2553 แพทย์ให้ยาแล้วกลับบ้าน หลังจากกินยาที่ได้รับมาแล้ว มีอาการง่วงซึม จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2553 ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว จึงนำส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลฯ แพทย์ตรวจพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดต่ำมาก ต้องเข้าห้องไอซียูใช้เครื่องช่วยหายใจ เมื่อกลับมาดูซองยาที่โรงพยาบาลจ่ายให้พบว่า มียา 1 ซอง ไม่ใช่ชื่อผู้ป่วยแต่เป็นยาของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง 1 ชุด เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ทางโรงพยาบาลยอมรับในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ป่วยรายนี้แพทย์ที่ให้การรักษาได้สั่งจ่ายยามากกว่า 10 ชนิดเนื่องจากป่วยหลายโรค จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีซองยาผู้อื่นติดไปด้วย และเจ้าหน้าที่ห้องจ่ายยายอมรับว่ามีซองใส่ยาเบาหวานของนางสุนันท์ โพธิ์มั่นหายไปจริง ซึ่งตามระบบปกติแล้ว เมื่อมีซองยาหายไป เจ้าหน้าที่จะประกาศให้ผู้ป่วยที่ได้รับยาไปแล้ว ตรวจสอบว่ามียาที่ไม่ใช่ของตนติดไปด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะยาเบาหวาน ที่ถือว่าเป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องค้นหาให้พบ แต่ครั้งนี้ไม่สามารถติดตามได้ เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยมาก
ทางด้านนายแพทย์สุชัย สุทธิกาศนีย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช กล่าวว่า โรงพยาบาลฯ ได้แก้ไขความคลาดเคลื่อนของระบบการจ่ายยา โดยประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทบทวนระบบการจ่ายยาของโรงพยาบาล ให้มีประสิทธิภาพรัดกุมยิ่งขึ้น และจัดหาเภสัชกรและเจ้าหน้าที่ประจำห้องจ่ายยาเพิ่ม ส่วนการดูแลผู้ป่วยได้หารือทำความเข้าใจกับญาติและวางแผนการรักษาผู้ป่วยมาตลอด โดยจะหารือกับญาติผู้ป่วยในวันพรุ่งนี้อีก ซึ่งทางโรงพยาบาลฯยินดีให้การดูแลผู้ป่วยรายนี้อย่างดีที่สุดและหากญาติมีความต้องการให้ส่งตัวไปรักษาที่อื่น ทางโรงพยาบาลพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
สำหรับผู้ป่วยรายนี้ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลฯเมื่อ 24 กรกฎาคม 2553 แรกรับไม่รู้สึกตัว ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นปกติ หายใจปกติ เอ็กซเรย์พบปอดด้านล่างข้างขวาอักเสบ ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แพทย์ได้ให้การรักษาเบื้องต้นโดยให้น้ำตาลทางหลอดเลือด 2 ครั้ง จนน้ำตาลในเลือดขึ้นในระดับที่น่าพอใจ แต่ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว จึงใส่ท่อช่วยหายใจและรักษาที่ห้องไอซียู มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาและพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์สุชัย กล่าวต่อว่า สำหรับอาการไม่รู้สึกตัวของผู้ป่วยรายนี้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากน้ำตาลในเลือดต่ำ ปอดอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด ล่าสุดในวันนี้( 5 ตุลาคม 2553) ผู้ป่วยรู้สึกตัวดีขึ้น เรียกลืมตาทำตามคำสั่งได้บ้างไม่มีไข้ ใส่เครื่องช่วยหายใจ หายใจได้เองได้เป็นบางเวลา
*********************************************** 5 ตุลาคม 2553