ผอ.ยูเอ็นเอดส์ชมไทยกล้าประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร

ผู้อำนวยการโครงการยูเอ็นเอดส์ ชื่นชมไทย กล้าหาญประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร เพื่อผู้ป่วยโรคเอดส์เข้าถึงยาคุณภาพดี ผู้อำนวยการโครงการยูเอ็นเอดส์ ส่งจดหมายตรงจากเจนีวา ชื่นชมรัฐบาลไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร นำเข้าและผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ เอฟฟาไวเรนซ์ ขนานดื้อยา แต่มีราคาแพง มาให้ผู้ป่วยเอดส์ไทยได้ใช้ เพื่อให้เข้าถึงยา มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับหนังสือจาก นายแพทย์ปีเตอร์ ปีออต (Dr.Peter Piot) ผู้อำนวยการโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ส่งตรงจากนครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2550 กล่าวชื่นชมความพยายามของนายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลไทย ที่ได้ประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร ในมาตรการที่จะนำเข้ายาสามัญชื่อ เอฟฟาไวเรนซ์ (Efavirenz) ที่มีราคาจำหน่ายในประเทศไทยแพงกว่าประเทศอื่น เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยเอดส์ในกลุ่มที่ดื้อยาสูตรพื้นฐาน ซึ่งยาดังกล่าวเป็นยาที่มีคุณภาพดี ผลข้างเคียงน้อย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2549 รวมทั้งการให้โรงงานในไทยผลิตยาสามัญ ระหว่างการนำเข้ายาดังกล่าวจนกว่าไทยจะผลิตยาได้เอง ทั้งหมดนี้นายแพทย์ปีเตอร์ ปีออตกล่าวว่า เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง ในการลดต้นทุนการให้ยาต้านไวรัสเอดส์ในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้ และมีความยั่งยืน นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์เอดส์ของประเทศไทย พบสาเหตุใหญ่ที่สุด ร้อยละ 84 มาจากการมีเพศสัมพันธ์อย่างไม่ปลอดภัย คาดว่าสิ้นปี 2549 มีผู้ติดเชื้อเอดส์สะสมทั้งหมด 1,088,692 ราย ในจำนวนนี้ยังมีชีวิตอยู่ 556,848 ราย ผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 3 มีอายุน้อยกว่า 29 ปี ซึ่งแสดงว่าติดเชื้อมาตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน จากการศึกษาวิจัยพบว่า รัฐบาลต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ สำหรับยาต้านไวรัสขั้นพื้นฐานและการรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ ปีละประมาณ 85,000 บาทต่อคนต่อปี และการดูแลรักษาพยาบาลนี้ต้องดูแลกันตลอดชีวิต ดังนั้นหากเยาวชนคนหนึ่งติดเชื้อตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปี อาจจะต้องดูแลรักษาพยาบาลนานกว่า 20 ปีหรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายเกือบคนละ 2 ล้านบาท หากรวมค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยยาต้านไววัส สำหรับกรณีเชื้อดื้อยาด้วย ค่าใช้จ่ายในการรักษานี้จะเพิ่มมากกว่านี้เป็น 2 เท่าหรือประมาณ 4 ล้านบาทกว่าราย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ************************************************** 12 กุมภาพันธ์ 2550